คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อลูกหนี้ได้ใช้หนี้ให้แก่เจ้าหนี้เกินกว่าร้อยละ 50 แล้ว และทรัพย์สินของลูกหนี้ก็ไม่มีที่จะรวบรวมมาใช้หนี้ต่อไปจนกระทั่งปิดคดีล้มละลายแล้ว เจ้าหนี้และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ไม่ได้คัดค้านในการที่ลูกหนี้ขอปลดจากการล้มละลาย แม้ลูกหนี้จะยังมีหนี้อีกมากก็ไม่ใช่เหตุที่ศาลจะไม่สั่งปลดจากการล้มละลายได้

ย่อยาว

คดีนี้ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แล้วได้พิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายเมื่อ พ.ศ. 2504 ต่อมาในปี 2508 จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปลดหรือยกเลิกการล้มละลายเพื่อให้จำเลยได้ประกอบอาชีพตั้งตัวใหม่

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รายงานต่อศาลเกี่ยวกับการปลดจากการล้มละลายของผู้ล้มละลายถึงกิจการ ทรัพย์สินและความประพฤติของผู้ล้มละลายว่า เหตุที่ถูกฟ้องล้มละลายเพราะจำเลยเบิกเงินเกินบัญชี และไม่ได้ชำระหนี้ โจทก์จึงได้ฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย เมื่อพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ได้ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ไว้ ลูกหนี้ผู้ล้มละลายได้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการรวบรวมทรัพย์สินเป็นอย่างดีจนทำให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้เกินร้อยละ 50 ของจำนวนหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ ไม่ปรากฏว่าผู้ล้มละลายประพฤติผิดกฎหมายล้มละลายอันจะมีโทษทางอาญาแต่ประการใดและหนี้สินนี้ได้เกิดขึ้นโดยสุจริต เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์แถลงว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินที่จะพึงชำระหนี้ให้แก่โจทก์ได้อีก หากให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายต่อไปก็คงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่เจ้าหนี้อีก จึงไม่คัดค้าน แต่ขอให้ศาลกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับทรัพย์สินที่จำเลยพึงได้มาในเวลาต่อไป

ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำขอปลดจากล้มละลายแล้วสั่งว่า หนี้ที่ผู้ล้มละลายยังเหลือเป็นหนี้โจทก์อยู่อีกมาก จำเลยเอาเงินโจทก์มาใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย จำเลยอ้างเหตุผลในการขอปลดจากการล้มละลายเพียงว่าเพื่อประกอบอาชีพตั้งตัวใหม่เท่านั้น จึงยังไม่สมควรที่จะอนุญาตให้ปลดหรือยกเลิกการล้มละลาย ให้งดการปลดจากการล้มละลายไว้มีกำหนดสองปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การที่ศาลจะสั่งปลดจากการล้มละลายนั้นจะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงให้ได้ความอย่างหนึ่งอย่างใดดังกล่าวไว้ในมาตรา 73 แล้วจึงมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างตาม มาตรา 72 ข้อ (1) ถึง (4) จำเลยเอาเงินจากโจทก์ไปใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย ข้อเท็จจริงจึงต้องด้วยข้อกำหนดมาตรา 73(4) ซึ่งศาลจะต้องสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างตามมาตรา 72 จะสั่งปลดหรือยกเลิกจากการล้มละลายไม่ได้ พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยได้ใช้หนี้ให้เจ้าหนี้เกินกว่าร้อยละ 50 แล้ว และทรัพย์สินของลูกหนี้ก็ไม่มีที่จะรวบรวมมาใช้หนี้ต่อไปจนกระทั่งปิดคดีล้มละลายแล้ว เจ้าหนี้และพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ไม่คัดค้านในการที่ลูกหนี้ขอปลดจากการล้มละลาย แม้ลูกหนี้จะยังมีหนี้อีกมากก็ไม่ใช่เหตุที่ศาลจะไม่สั่งปลดจากการล้มละลายได้

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ปลดจำเลยจากการล้มละลาย

Share