คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2583/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ใช้ทางพิพาทกว่า 10 ปี ทางพิพาทดังกล่าวจึงตกเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ ต่อมาเมื่อจำเลยขอให้โจทก์ย้ายทางภารจำยอมมายังส่วนอื่นของที่ดินจำเลยเพื่อประโยชน์ของจำเลยเจ้าของภารยทรัพย์ ทางเส้นใหม่นี้จึงตกเป็นทางภารจำยอมแทนทางเดิม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1392

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 283 จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 786 เมื่อประมาณ 50 กว่าปีมานี้ชาวบ้านในหมู่บ้านและโจทก์อาศัยการเดินทางเข้าออกไปทำนาและออกมาสู่ตัวจังหวัด ผ่านเข้ามาในที่ดินของจำเลยด้านทิศตะวันออก สู่ทางเข้าหมู่บ้านด้านทิศเหนือของที่ดินจำเลยตามเส้นสีน้ำเงินในแผนที่ท้ายฟ้องจำเลยไม่ได้โต้แย้งคัดค้านแต่อย่างใด จึงได้ภารจำยอมจากที่ดินจำเลยโดยอายุความ ต่อมาพ.ศ. 2524 จำเลยขอเลื่อนเส้นทางจากเดิมมาทางด้านทิศตะวันตกประมาณ 1 เส้น ตามเส้นสีแดงแผนที่ท้ายฟ้อง ทางเส้นนี้จึงเป็นเส้นทางภารจำยอมเส้นใหม่ที่จำเลยแลกเปลี่ยนกับเส้นทางเดิมต่อมาจำเลยได้ปิดกั้นเส้นทางภารจำยอมสายใหม่ตามเส้นสีแดงท้ายฟ้อง โดยปิดกั้นรั้วเป็นเหตุให้โจทก์และชาวบ้านไม่สามารถเดินออกมาสู่ทางสาธารณะได้ ขอให้จำเลยเปิดทางภารจำยอมตามเส้นสีแดงท้ายฟ้อง โดยทำให้อยู่ในสภาพตามเดิม ถ้าไม่สามารถเปิดทางภารจำยอมตามเส้นสีแดงได้ก็ให้จำเลยเปิดทางภารจำยอมตามเส้นสีน้ำเงินโดยทำให้เป็นทางสูง 1 เมตร กว้าง 6 ศอก ยาวตลอดความยาวของที่ดินโฉนดเลขที่ 786 ของจำเลย โดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
จำเลยให้การว่า ที่ดินของโจทก์ไม่ได้ถูกปิดล้อมโดยที่ดินของบุคคลอื่นจนทำให้โจทก์จำเป็นที่จะต้องใช้ที่ดินของจำเลยเป็นทางเข้าออก ทั้งนี้เพราะโจทก์มีเส้นทางสาธารณะที่ใช้เข้าออกอยู่แล้วและไม่เคยมีทางสาธารณะอยู่บนที่ดินของจำเลย เมื่อ พ.ศ. 2520ทางราชการได้ให้เจ้าหน้าที่ออกเดินสำรวจเพื่อออก น.ส.3 ก.ก็ไม่มีทางสาธารณะผ่านเข้าไปในที่ดินของจำเลยดังนั้นก่อนพ.ศ. 2520 ทางภารจำยอมตามที่โจทก์กล่าวอ้างยังไม่มี และในพ.ศ. 2524 จำเลยไม่เคยตกลงกับโจทก์เปลี่ยนเส้นทางเดินตามฟ้องแต่อย่างใดขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเปิดทางภารจำยอมตามแผนที่ท้ายฟ้องเส้นสีน้ำเงินในที่ดินโฉนดเลขที่ 786 มีขนาดกว้าง 6 ศอกยาวประมาณ 2 เส้น โดยค่าใช้จ่ายของจำเลย คำขออื่นให้ยก
โจทก์ และจำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยเปิดทางภารจำยอมตามแผนที่ท้ายฟ้องเส้นสีแดง ซึ่งอยู่ในที่ดินโฉนดเลขที่ 786ให้กว้าง 6 ศอก ยาวประมาณ 2 เส้น โดยให้จำเลยรื้อถอนสิ่งต่าง ๆและปรับพื้นที่ให้อยู่ในสภาพเดิม
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีทางภารจำยอมตามเส้นสีน้ำเงินแล้วต่อมาได้ย้ายมายังเส้นสีแดงตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องหรือไม่เห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้ว่า จำเลยขอให้ย้ายทางพิพาทจากเส้นสีน้ำเงินมายังเส้นสีแดงตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้อง เมื่อโจทก์ใช้ทางพิพาทตามเส้นสีน้ำเงินกว่า 10 ปี ทางพิพาทดังกล่าวจึงตกเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ ต่อมาเมื่อจำเลยขอให้โจทก์ย้ายทางภารจำยอมมายังเส้นสีแดงตามแผนที่สังเขป ท้ายฟ้องเพื่อประโยชน์ของจำเลยเจ้าของภารยทรัพย์ ทางตามเส้นสีแดงจึงตกเป็นทางภารจำยอมแทนทางเดิม ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1392
พิพากษายืน

Share