คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2580/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 คู่ความฝ่ายใดในคดีนั้น ๆ จะร้องขอก็ได้ แต่จะต้องเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องขอ เพื่อให้ทรัพย์สินสิทธิหรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่พิพาทกันในคดีนั้น ได้รับความคุ้มครองไว้จนกว่าศาลจะได้มีคำพิพากษากรณีที่จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์ชำระเงินนี้มิใช่พิพาทกันด้วยทรัพย์สิน หรือสิทธิ หรือประโยชน์อันจำเลยจะร้องขอเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามบทบัญญัติดังกล่าวจำเลยจะขอให้โจทก์นำทรัพย์สินหรือเงินมาวางศาลตามมาตรานี้ไม่ได้และ จะขอให้โจทก์หาประกันหรือหลักประกันมาวางศาลก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะไม่มีกฎหมายใดบัญญัติให้ทำเช่นนั้นได้

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยทั้งสองตามสัญญาซื้อขายจำเลยทั้งสองให้การและฟ้องแย้งให้โจทก์ชำระเงินจำนวน 6,856,719.75 บาทคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยยื่นคำร้องว่า โจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย และไม่ปรากฏว่ามีทรัพย์อยู่ในประเทศไทย หากโจทก์แพ้คดี โจทก์อาจจะไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาล ขอให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์นำทรัพย์สินหรือเงินหรือประกันหรือหลักประกันมาวางศาลหรือสำนักงานวางทรัพย์กรมบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 นั้น คู่ความฝ่ายใดในคดีนั้น ๆ จะร้องขอก็ได้ แต่จะต้องเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องขอเพื่อให้ทรัพย์สิน สิทธิหรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่พิพาทกันในคดีนั้นได้รับความคุ้มครองไว้จนกว่าศาลจะได้มีคำพิพากษา กรณีที่จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์ชำระเงินเช่นในคดีนี้ มิใช่พิพาทกันด้วยทรัพย์สินหรือสิทธิหรือประโยชน์อันจำเลยจะร้องขอเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามบทบัญญัติดังกล่าว จำเลยจะขอให้โจทก์นำทรัพย์สินหรือเงินมาวางศาลตามมาตรานี้ไม่ได้ และจะขอให้โจทก์หาประกันหรือหลักประกันมาวางศาลก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะไม่มีกฎหมายใดบัญญัติให้ทำเช่นนั้นได้

พิพากษายืน

Share