แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทุกกรรมรวม 3 กระทง กระทงแรกประหารชีวิตอีก 2 กระทงลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ลดมาตราส่วนโทษให้จำเลย 1 ใน 3 กระทงแรกลงโทษจำคุกตลอดชีวิต อีก 2 กระทงลงโทษกระทงละ8 เดือน เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นจำคุก 50 ปี รวมจำคุกจำเลย 51 ปี 4 เดือน ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา มีการแก้ไขและบัญญัติประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ขึ้นใหม่อันเป็นกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลย โดยในกรณีคดีนี้เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วจำคุกได้ไม่เกิน 50 ปี ศาลฎีกาแก้เป็นให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 50 ปี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๙๑พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ฐานฆ่าผู้อื่นให้ประหารชีวิต ฐานมีอาวุธปืนจำคุก ๑ ปี ฐานพาอาวุธปืนจำคุก ๑ ปี ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดมาตราส่วนโทษแก่จำเลย ๑ ใน ๓ คงจำคุกจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นไว้ตลอดชีวิต ฐานมีอาวุธปืนจำคุก ๘ เดือน ฐานพาอาวุธปืนจำคุก ๘ เดือน เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นจำคุก ๕๐ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑รวมจำคุกจำเลย ๕๑ ปี ๔ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า พยานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงเชื่อได้ว่าจำเลยเป็นคนร้าย พยานจำเลยไม่อาจฟังหักล้างได้ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
แต่ปรากฏว่าระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๙๑ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ข้อ ๒ โดยได้บัญญัติความมาตรา ๙๑ ขึ้นใหม่ใช้แทนของเดิมอันเป็นกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยผู้กระทำความผิดและใช้ภายหลังการกระทำความผิดสำหรับกรณีนี้เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วจำคุกได้ไม่เกิน ๕๐ ปี
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนด ๕๐ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๑(๓) นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์