คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1819/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาฝากทรัพย์นั้น ผู้ฝากจะต้องส่งมอบทรัพย์สินให้แก่ ผู้รับฝาก และผู้รับฝากตกลงว่าจะเก็บรักษาทรัพย์สินนั้นไว้ ในอารักขาแห่งตน แล้วจะคืนให้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 657 ว. นำรถยนต์พิพาทเข้าไปจอดในบริเวณสยามสแควร์ โดยเป็น ผู้เลือก สถานที่จอดเองได้ใส่กุญแจล็อกคลัตช์และล็อกห้ามล้อไว้เพื่อกันขโมยล็อกประตูทุกบานและเก็บ กุญแจสวิตช์ไว้เอง ระหว่างที่รถจอดอยู่ การครอบครอง ตกอยู่ แก่ ว. โดยตลอด หากรถยนต์เพียงแต่เข้าทางประตูเข้าแล้วผ่านออกไป ทางประตูออก เมื่อไม่จอดก็ไม่ต้องเสียค่าจอดค่าบริการจอดรถ 3 บาทใช้ได้ ตลอดวัน เจ้าของรถยนต์จะนำรถยนต์ออกไปแล้วนำเข้ามาจอดใหม่อีกก็ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าบริการอีกหรือจะเคลื่อนรถยนต์ไปจอดที่แห่งใด ก็ได้ภายใน บริเวณสยามสแควร์ด้วยกันโดยไม่ต้องบอกให้เจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 2 ทราบ เมื่อไม่ปรากฏว่าว. ได้ส่งมอบรถยนต์พิพาทให้จำเลยทั้งสอง และจำเลยทั้งสอง ตกลงว่าจะ เก็บรักษารถยนต์พิพาทไว้ในอารักขาแห่งตน แล้วจะคืนให้ แม้จำเลย ที่ 2 จะเรียกเก็บค่าบริการจอดรถยนต์จาก ว. จำเลยทั้งสอง ก็หาใช่ผู้รับฝากรถยนต์พิพาทไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้รับประกันรถยนต์ของนายวิชาญซึ่งเป็นการประกันภัยแบบคุ้มครองทุกประเภท นายวิชาญได้นำรถยนต์ไปจอดที่หน้าร้านอาหารในสยามแควร์ซอย 7 ซึ่งเป็นบริเวณทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ที่ได้จัดทำบริการรับฝากรถยนต์จากประชาชนทั่วไปโดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ดูแลรักษาผลประโยชน์การรับฝากทรัพย์ของจำเลยที่ 1 นายวิชาญได้เสียค่าบริการฝากรถยนต์ให้แก่จำเลยที่ 1 เป็นเงิน 3 บาทปรากฏว่ารถยนต์สูญหายไป โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยรถยนต์ดังกล่าวได้จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่นายวิชาญเป็นเงิน 100,000 บาท จึงได้รับช่วงสิทธิของนายวิชาญในอันที่จะเรียกร้องเอาเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวและดอกเบี้ย

จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้จัดบริการรับฝากรถยนต์จากประชาชนบริเวณสยามสแควร์มีทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 อยู่มากและมีที่ว่างจะนำรถยนต์เข้าจอดได้จำนวนมาก จำเลยที่ 1 จึงยอมให้นำรถยนต์เข้ามาจอดได้โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการดูแลความเรียบร้อยและการจราจรในบริเวณนั้นให้ได้รับความสะดวก จำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้ว่าจ้างทำของให้จำเลยที่ 1 เท่านั้น หากมีความรับผิดใดจำเลยที่ 1 หากต้องร่วมรับผิดด้วยไม่ นายวิชาญมิได้ส่งมอบการครอบครองรถยนต์แก่จำเลยที่ 1 หรือเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 2 มิได้จ่ายค่าบริการใด ๆ

จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 ไม่เคยรับฝากหรือรับเป็นผู้ดูแลและรักษารถยนต์พิพาทจากนายวิชาญ จำเลยที่ 1 ไม่เคยจัดทำบริการรับฝากรถยนต์ จำเลยที่ 2 รับจ้างจำเลยที่ 1 ดำเนินการจัดการจราจรในเรื่องการจอดรถยนต์ภายในบริเวณสยามสแควร์ให้เป็นระเบียบโดยจำเลยที่ 1 ให้ใช้สถานที่จอดรถยนต์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าสถานที่จอด แต่ต้องเสียค่าบริการในการจัดการจราจรคันละ 3 บาท โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดเก็บ จำเลยที่ 2 ได้แจ้งไว้ในใบเสร็จรับเงินค่าบริการแล้วว่าค่าบริการนี้ไม่ครอบคลุมถึงการสูญเสียและความเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 657 สัญญาฝากทรัพย์นั้น ผู้ฝากจะต้องส่งมอบทรัพย์สินให้แก่ผู้รับฝาก และผู้รับฝากตกลงว่าจะเก็บรักษาทรัพย์สินนั้นไว้ในอารักขาแห่งตน แล้วจะคืนให้ แต่ตามข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบไม่ปรากฏเลยว่า วิชาญซึ่งนำรถยนต์รายพิพาทเข้าไปจอดบริเวณสยามสแควร์ได้ส่งมอบรถยนต์รายพิพาทให้แก่จำเลยคนหนึ่งคนใดหรือจำเลยคนหนึ่งคนใดตกลงว่าจะเก็บรักษารถยนต์รายพิพาทไว้ในอารักขาแห่งตน แล้วจะคืนให้ นายวิชาญเบิกความว่าในการจอดรถยนต์ที่บริเวณสยามสแควร์นั้น พยานเป็นผู้เลือกสถานที่จอดเอง เมื่อพยานจอดรถยนต์แล้ว ได้ใส่กุญแจล็อกห้ามล้อไว้ด้วยเพื่อกันขโมย พยานล็อกประตูทุกบานเพื่อไม่ให้ของหาย เมื่อล็อกเรียบร้อยแล้วพยานเก็บกุญแจสวิตช์ไว้เองการครอบครองรถยนต์ระหว่างที่รถยนต์ของพยานจอดอยู่นั้นอยู่ในความครอบครองของพยานโดยตลอด นายประพันธ์ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องคดีนี้ ก็เบิกความเป็นพยานโจทก์ว่า พยานเคยนำรถยนต์เข้าไปจอดในบริเวณสยามสแควร์ หากรถยนต์เพียงแต่เข้าทางประตูเข้าแล้วผ่านออกไปทางประตูออก เมื่อไม่จอดก็ไม่ต้องเสียค่าจอดค่าบริการจอดรถ 3 บาทใช้ได้ตลอดวัน เจ้าของรถยนต์จะนำรถยนต์ออกไปแล้วนำเข้ามาจอดใหม่อีกก็ได้โดยไม่ต้องเสียค่าบริการอีก เจ้าของรถยนต์จอดรถแล้วจะเคลื่อนรถยนต์ไปจอดที่แห่งใดก็ได้ภายในบริเวณสยามสแควร์ด้วยกันโดยไม่ต้องบอกให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 2 ทราบ พยานโจทก์ดังกล่าวเจือสมพยานจำเลยซึ่งนำสืบว่า จำเลยทั้งสองไม่ได้รับฝากรถยนต์ จำเลยที่ 1 เพียงแต่ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ให้เป็นผู้จัดการดูแลความเรียบร้อยของการจราจรในบริเวณสยามสแควร์ เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่านายวิชาญได้ส่งมอบรถยนต์รายพิพาทให้แก่จำเลยทั้งสอง และจำเลยทั้งสองตกลงว่าจะเก็บรักษารถยนต์รายพิพาทไว้ในอารักขาแห่งตน แล้วจะคืนให้ แม้จำเลยที่ 2 จะเรียกเก็บค่าบริการจอดรถยนต์จากนายวิชาญ จำเลยทั้งสองก็หาใช่ผู้รับฝากรถยนต์รายพิพาทซึ่งจะต้องรับผิดต่อโจทก์ไม่

พิพากษายืน

Share