คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2573/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยตกลงยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ ป. เนื่องจากการกระทำละเมิดของลูกจ้างจำเลย เป็นการตกลงระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน อันเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 ย่อมทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้เรียกร้องนั้นระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงไว้ในสัญญาว่าเป็นของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 สิทธิเรียกร้องของ ป.ในมูลหนี้ละเมิดจึงระงับสิ้นไป และได้สิทธิเรียกร้องใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
สิทธิเรียกร้องอันตั้งหลักฐานโดยการประนีประนอมยอมความมีกำหนดอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา168 มิใช่ถืออายุความตามมูลหนี้เดิม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ลูกจ้างของจำเลยได้ขับรถยนต์บรรทุกของจำเลยไปในทางการที่จ้างโดยประมาทชนรถจักรยานยนต์ของโจทก์ ซึ่งมีนายปรีชาเป็นผู้ขับขี่เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์เสียหายและนายปรีชาได้รับบาดเจ็บสาหัส จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้แก่นายปรีชา โดยได้ชำระค่าเสียหายให้ในวันทำสัญญาครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือให้นายปรีชาไปเรียกเก็บเงินจากบริษัทสินสวัสดิ์ประกันภัย จำกัด นายปรีชาได้โอนสิทธิเรียกร้องให้โจทก์แต่โจทก์เรียกเก็บเงินจากบริษัทสินสวัสดิ์ประกันภัย จำกัด ไม่ได้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ที่เหลือให้แก่โจทก์ ขอบังคับให้จำเลยชำระเงินที่เหลือพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์รับโอนสิทธิเรียกร้องโดยมิได้บอกกล่าวเป็นหนังสือให้จำเลยทราบและจำเลยมิได้ยินยอมด้วย ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยตกลงกับนายปรีชายอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายปรีชาเนื่องจากการกระทำละเมิดของลูกจ้างของจำเลยนั้น เป็นการตกลงระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน อันเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๕๐ ผลของสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นย่อมทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้เรียกร้องนั้นระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงไว้ในสัญญาว่าเป็นของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๕๒ สิทธิเรียกร้องของนายปรีชาในมูลหนี้ละเมิดจึงระงับสิ้นไปและได้สิทธิเรียกร้องใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แม้บันทึกข้อตกลงที่จำเลยกับนายปรีชาลงลายมือชื่อไว้จะเรียกว่าบันทึกการชดใช้ค่าเสียหาย แต่ข้อความก็เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ หาใช่หนังสือรับสภาพหนี้ไม่สิทธิเรียกร้องตั้งเป็นหลักฐานโดยการประนีประนอมยอมความนั้นมีกำหนดอายุความ ๑๐ ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๘ มิใช่ถืออายุความตามมูลหนี้เดิม โจทก์ฟ้องคดีนี้ภายในกำหนด ๑๐ ปี นับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ฟ้องของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน

Share