แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสองความหมายว่า หากผู้อุทธรณ์ประสงค์จะอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงใดก็ต้องห้ามยกข้อเท็จจริงเฉพาะในปัญหาข้อนั้นขึ้นกล่าวอ้างมาในอุทธรณ์ หาจำต้องยกข้อเท็จจริงอื่นทั้งหมดในสำนวนระบุมาในอุทธรณ์ด้วยไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษให้จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษโดยอ้างเหตุมาในอุทธรณ์ว่าจำเลยไม่เคยกระทำความผิดใด ๆ มาก่อน บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับไม่ร้ายแรง ทั้งจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายจนเป็นที่พอใจของผู้เสียหายและไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลย ถือได้ว่าจำเลยได้ยกข้อเท็จจริงที่จำเลยประสงค์จะอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์รอการลงโทษให้จำเลยเป็นการระบุข้อเท็จจริงโดยย่อมาในอุทธรณ์ครบถ้วนแล้ว ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสองแล้วการที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาเป็นการไม่ชอบและศาลฎีกาเห็นสมควรที่จะวินิจฉัยไปเสียทีเดียวว่ามีเหตุสมควรจะรอการลงโทษให้จำเลยหรือไม่ โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหาดังกล่าวก่อน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 และ 83
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 และ 83 จำคุก 2 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย
จำเลยฎีกาว่า อุทธรณ์ของจำเลยชอบด้วยกฎหมายแล้วเพราะจำเลยได้ระบุในอุทธรณ์ชัดเจนว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 เดือน โดยที่จำเลยกล่าวในอุทธรณ์ว่าบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับไม่ถึงสาหัสหรือรุนแรง ทั้งจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจของผู้เสียหายแล้ว ประกอบกับมีเหตุบรรเทาโทษและเหตุอันควรปรานีแก่จำเลย จำเลยจึงขอให้ศาลอุทธรณ์รอการลงโทษแก่จำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า อุทธรณ์ทุกฉบับต้องระบุข้อเท็จจริงโดยย่อนั้น คงมีความหมายว่าผู้อุทธรณ์ประสงค์จะอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงใดก็ต้องยกข้อเท็จจริงเฉพาะในปัญหาข้อนั้นขึ้นกล่าวอ้างมาในอุทธรณ์ หาจำต้องยกข้อเท็จจริงอื่นทั้งหมดในสำนวนระบุมาในอุทธรณ์ด้วยไม่ คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษให้ จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษโดยอ้างเหตุมาในอุทธรณ์ว่า จำเลยไม่เคยกระทำความผิดใด ๆ มาก่อนบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับไม่ร้ายแรง ทั้งจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายจนเป็นที่พอใจของผู้เสียหายและไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลยเช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยได้ยกข้อเท็จจริงที่จำเลยประสงค์จะอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 รอการลงโทษให้จำเลย เป็นการระบุข้อเท็จจริงโดยย่อมาในอุทธรณ์ครบถ้วนตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้วอุทธรณ์ของจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมาย การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาเป็นการไม่ชอบ และศาลฎีกาเห็นสมควรที่จะวินิจฉัยไปเสียทีเดียวว่ามีเหตุสมควรจะรอการลงโทษให้จำเลยหรือไม่ โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยปัญหาดังกล่าวก่อน และเห็นว่ากรณีมีเหตุสมควรที่จะให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีโดยรอการลงโทษให้จำเลย แต่เพื่อให้จำเลยหลาบจำจึงให้ลงโทษปรับอีกส่วนหนึ่ง และคุมความประพฤติจำเลยไว้ด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษปรับจำเลยเป็นเงิน4,000 บาท อีกสถานหนึ่ง ลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 กึ่งหนึ่งแล้วคงปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30ให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ภายในเวลาที่รอการลงโทษ และให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควรมีกำหนด 20 ชั่วโมง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น