แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้กรมธรรม์ประกันภัยจะจำกัดความรับผิดในกรณีนำรถบรรทุกที่เอาประกันภัยไปรับจ้างบรรทุกก็ตาม แต่การที่ผู้เอาประกันภัยนำรถดังกล่าวบรรทุกสินค้าของตนไปส่งลูกค้า แล้วขากลับได้รับจ้างบรรทุกสินค้าอื่นกลับเพื่อไม่ให้เสียเที่ยวและเกิดเหตุขึ้น ยังไม่พอถือว่าผู้เอาประกันภัยนำรถไปใช้ผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย เพราะยังเป็นการใช้รถในกิจการค้าขายของผู้เอาประกันภัยซึ่งมีอาชีพค้าขายและมีรถยนต์ไว้บรรทุกสินค้า
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ ๑ เป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถบรรทุกน้ำมัน หมายเลขทะเบียน ๑ บ – ๕๓๘๖ โจทก์ที่ ๒ ที่ ๓ เป็นภรรยาและบุตรของนายเจตน์ กัลยา คนขับรถดังกล่าว จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ เป็นเจ้าของรถบรรทุกคันหมายเลขทะเบียน ม.ค.๐๒๐๙๓ ซึ่งเอาประกันภัยไว้กับจำเลยที่ ๓ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๒๒ ลูกจ้างของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ได้ขับรถบรรทุกดังกล่าวในทางการที่จ้างด้วยความประมาทบนถนนมิตรภาพซึ่งมุ่งหน้าไปทางจังหวัดนครราชสีมา โดยขับด้วยความเร็วสูง และล้ำกึ่งกลางถนนเข้ามาในเส้นทางเดินรถของโจทก์ที่ ๑ ซึ่งแล่นส่วนทางมา เป็นเหตุให้ชนกับรถโจทก์ที่ ๑เสียหาย และนายเจตน์ กัลยาถึงแก่ความตาย โจทก์ที่ ๑ เสียหายเป็นเงิน ๒๒๑,๑๐๐ บาท โจทก์ที่ ๒ เสียค่าจัดการศพ ๒๐,๗๕๐ บาท ขอค่าขาดไร้อุปการะ ๑๐๐,๐๐๐ บาท โจทก์ที่ ๓ ขอค่าขาดไร้อุปการะ๑๐๘,๐๐๐ บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามชำระค่าเสียหายดังกล่าว พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสามให้การว่า นายเจริญ เอี่ยมนอก คนขับรถบรรทุกของจำเลยไม่ได้ประมาท หากแต่นายเจตน์ขับรถด้วยความเร็วสูงในทางโค้ง ทำให้รถเสียหลักเข้ามาชนรถจำเลย ขณะเกิดเหตุนายเจริญไม่ได้ขับรถในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๑ โดยลักลอบนำรถไปรับจ้างหารายได้พิเศษ จำเลยที่ ๓ จำกัดวงเงินประกันคุ้มครองความเสียหายของบุคคลภายนอกคนละไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท แต่จำเลยที่ ๓ ไม่ต้องรับผิดเพราะผู้เอาประกันภัยทำผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ โดยให้ผู้ขับขี่นำรถไปรับจ้างบรรทุกสินค้าโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ค่าเสียหายไม่เท่าจำนวนตามฟ้องขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสามพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยที่ ๓ ฎีกาว่าจำเลยที่ ๓ ไม่ต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัยเพราะจำเลยที่ ๒ ผู้เอาประกันภัยปฏิบัติผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ โดยปล่อยให้ลูกจ้างนำรถที่เอาประกันภัยไปรับจ้างบรรทุกสินค้าให้แก่บุคคลภายนอกพิจารณาแล้วเห็นว่า รถยนต์ของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๓ รับประกันภัย เป็นรถบรรทุก ๑๐ ล้อ มีไว้เพื่อบรรทุกสินค้าในการค้าขายของจำเลยที่ ๒ การที่จำเลยที่ ๒ ใช้ให้นายเจริญขับรถบรรทุกสินค้าไปส่งแก่ลูกค้าที่กรุงเทพมหานคร ขากลับได้บรรทุกปุ๋ยเคมีหรือสินค้าอื่นกลับเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว เป็นการใช้รถในกิจการค้าของจำเลยที่ ๒ ซึ่งมีอาชีพค้าขาย และมีรถบรรทุกที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยที่ ๓ เป็นพาหนะบรรทุกสินค้า ยังไม่พอถือว่าจำเลยที่ ๒ นำรถที่เอาประกันภัยไว้ไปใช้ในการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยที่ ๓ ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดต่อโจทก์ทั้งสามร่วมกับจำเลยที่ ๒ ตามจำนวนค่าเสียหายที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
พิพากษาแก้เฉพาะค่าเสียหายในการซ่อมรถ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์