แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การเช่าและการอ าศัยอยู่ในลักษณะเดียวกัน ผิดกันแต่ว่า การเช่าต้องเสียค่าเช่า การอาศัยไม่ต้องเสียค่าเช่า
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยกล่าวว่า จำเลยได้อาศียโดยเสียค่าน้ำค่าไฟซึ่งเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงของการปฏิบัติระหว่างโจทก์จำเลยว่าเป็นเช่นไร เพื่อขอให้ศาลปรับเข้ากับตัวกฎหมายแล้วขับไล่จำเลยเมื่อคดีได้ความว่าเป็นการเช่าศาลก็ได้ตัดสินได้ ไม่เป็นการเกินหรือ นอกคำฟ้อง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้อาศัยตึกเช่าส่วนหนึ่งของโจทก์ทำการค้า โดยยอมออกค่าน้ำค่าไฟ ตอนเย็นจำเลยไปกินอยู่หลับนอนที่อื่น โจทก์ได้บอกให้จำเลยออกจากห้องแล้วไม่ไปจึงต้องฟ้องขอให้ขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่าได้เช่าจากโจทก์ ไม่ได้อาศัยศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องโจทก์หาว่าจำเลยอาศัยข้อเท็จจริงได้ความว่า เป็นเรื่องเช่า พิพากษายกฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การเช่าและการอาศัยอยู่ในลักษณะเดียวกัน ผิดแต่ว่าการเช่าต้องเสียค่าเช่า การอาศัยไม่ต้องเสียค่าเช่าแม้โจทก์จะใช้คำว่า อ าศัย แต่ได้กล่าวถึงการที่จำเลยเสียค่าตอบแทนให้ เป็นการบรรยายข้อเท็จจริงของการปฏิบัติระหว่างโจทก์จำเลย เพื่อขอให้ศาลปรับเข้ากับตัวบทกฎหมายแล้วขับไล่จำเลย เมื่อคดีได้ความว่าเป็นการเช่าก็ตัดสินไปตามนั้น ไม่เป็นการเกินหรือนอกคำฟ้อง
จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิพากคดีใหม่ตามรูปคดี.