คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2571/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ไปเบิกน้ำมันตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ในระหว่างนั้นได้ขับรถไปเพื่อซื้อยาให้คนงานของจำเลยที่ 2 จึงเกิดเหตุเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ที่โจทก์ที่ 1 กำลังขับอยู่ ดังนี้แม้จะได้ความว่าจำเลยที่ 1 ขับรถไปถึงยังสถานที่ที่เบิกน้ำมันแล้วจึงออกไปซื้อยาภายนอกสถานที่ดังกล่าว อันเป็นการผิดระเบียบของจำเลยที่ 2 และระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีก็ตาม แต่เมื่อจำเลยที่ 1 ยังไม่ได้กลับไปยังที่ทำการเดิมของจำเลยที่ 2 ก็ถือว่าจำเลยที่ 1 ยังอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่การงานในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดของจำเลยที่ 1 ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2ในทางราชการของจำเลยที่ 2 โดยไม่ได้ใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ที่โจทก์ที่ 1 กำลังขับอยู่ทำให้โจทก์ที่ 1 ได้รับอันตรายสาหัส รถจักรยานยนต์เสียหายการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการละเมิดซึ่งจำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดด้วย ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์เป็นการส่วนตัวเหตุรถชนกันเกิดจากความประมาทของโจทก์ที่ 1
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 1 นำเอารถยนต์ของจำเลยที่ 2ขับไปทำธุรกิจส่วนตัวนอกเวลาราชการของจำเลยที่ 2 เป็นการผิดระเบียบการใช้รถยนต์ เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทของโจทก์ที่ 1
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ทั้งสอง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ลดจำนวนค่าเสียหายที่จำเลยทั้งสองจะต้องรับผิดต่อโจทก์ทั้งสอง
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังว่าเหตุที่รถชนกันเกิดจากความประมาทของจำเลยที่ 1 แต่เพียงฝ่ายเดียว ส่วนปัญหาว่าจำเลยที่ 2จะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วยหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่จำเลยทั้งสองนำสืบว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 มีหน้าที่ขับรถยนต์คันเกิดเหตุซึ่งเป็นของจำเลยที่ 2 ในวันเกิดเหตุได้รับคำสั่งจากนายสติ วงศ์วิชาสวัสดิ์ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 และเป็นข้าราชการของจำเลยที่ 2ให้ขับรถคันเกิดเหตุจากที่ทำการโครงการตามพระราชประสงค์ห้วยป่าเลาไปเบิกน้ำมันที่สำนักงานโครงการพัฒนาต้นน้ำ (ห้วยแก้ว)ในระหว่างนั้นจำเลยที่ 1 ได้ขับรถเพื่อไปซื้อยาให้คนงานของจำเลยที่ 2 ซึ่งป่วย จึงเกิดเหตุชนกับรถของโจทก์ที่ 1 ได้ความดังกล่าวมาศาลฎีกาเห็นว่า แม้จำเลยที่ 1 จะขับรถมาถึงสำนักงานโครงการพัฒนาต้นน้ำ (ห้วยแก้ว) แล้วออกไปซื้อยาภายนอกสำนักงานอันเป็นการผิดระเบียบของจำเลยที่ 2 และของสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523 จนเป็นเหตุให้รถชนกันในคดีนี้ก็ตามแต่จำเลยที่ 1 ยังไม่ได้กลับไปยังที่ทำการเดิมของจำเลยที่ 2 ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ยังอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่การงานในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 อยู่ เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถประมาทเป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสองเสียหาย จำเลยที่ 2 จะต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ทั้งสอง
พิพากษายืน

Share