คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2563/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อความในสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมแล้ว ข้อ (1) ระบุว่าโจทก์และจำเลยทั้งสองยินยอมตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 6(จังหวัด พิษณุโลก ) เป็นผู้ชำระบัญชี ซึ่งขณะนั้น ม.ดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 6 ม. จึงเป็นผู้ชำระบัญชีโดยตำแหน่งราชการไม่ใช่เป็นการเฉพาะตัว เมื่อ ม. ย้ายไปรับราชการที่อื่นและ จ. ย้ายมาดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 6 แทน จ. ก็ย่อมเป็นผู้ชำระบัญชีในคดีนี้ต่อไปได้ การที่ศาลแต่งตั้ง จ. เป็นผู้ชำระบัญชีคนใหม่แทน ม. ผู้ชำระบัญชีคนเดิม จึงไม่เป็นการผิดวัตถุประสงค์เดิมของโจทก์และจำเลย ทั้งไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาตามยอมของคู่ความ.

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้อง จำเลยขอเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนและขอให้ศาลตั้งบุคคลที่ศาลเห็นสมควรเป็นผู้ชำระบัญชีคู่ความได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมและหมายตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 6 เป็นผู้ชำระบัญชีตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 6 เพื่อจะทำการชำระบัญชีกันเองจำเลยไม่ตกลง ศาลจึงให้มีการชำระบัญชีโดยผู้ชำระบัญชีคนเดิมที่ได้แต่งตั้งไว้แล้ว
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า การที่โจทก์และจำเลยทั้งสองทำสัญญาประนีประนอมยอมความตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 6 เป็นผู้ชำระบัญชีเป็นการแต่งตั้งเฉพาะตัว ไม่เกี่ยวแก่ราชการนั้น เห็นว่า ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2528 ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาตามยอมแล้ว ข้อ (1) ระบุว่า โจทก์และจำเลยทั้งสองยินยอมตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาที่ 6 (จังหวัดพิษณุโลก) เป็นผู้ชำระบัญชี ซึ่งขณะนั้นนายมนัสแจ่มจรรยา ดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 6 ดังนั้นนายมนัสจึงเป็นผู้ชำระบัญชีโดยตำแหน่งราชการไม่ใช่เป็นการเฉพาะตัว เพราะตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวระบุไว้ชัดถึงตำแหน่ง ไม่ได้ระบุชื่อนายมนัสโดยเฉพาะ เมื่อนายมนัสย้ายไปรับราชการที่อื่น และนายจำนงค์ ถึงบุญย้ายมาดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 6 แทน นายจำนงค์ก็ย่อมเป็นผู้ชำระบัญชีในคดีนี้ต่อไปได้ การที่ศาลชั้นต้นแต่งตั้งนายจำนงค์เป็นผู้ชำระบัญชีคนใหม่แทนนายมนัสผู้ชำระบัญชีคนเดิม จึงไม่เป็นการผิดวัตถุประสงค์เดิมของโจทก์และจำเลยทั้งสอง ทั้งไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาตามยอมของคู่ความดังที่โจทก์กล่าวอ้างแต่อย่างใด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share