แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น ต้องเป็นการแสดงข้อความให้คนฟังคนเห็นเชื่อ จึงจะเกิดความรู้สึกเกลียดชัง ดูหมิ่น ขึ้นได้ จำเลยกล่าวว่าโจทก์เป็นผีปอบ เป็นชาติหมา ความรู้สึกนึกคิดของคนธรรมดาไม่เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นไปได้ จึงไม่ก่อให้เกิดความเกลียดชังหรือดูหมิ่นอย่างใด และข้อความใดจะเป็นการทำให้เสียหายแก่ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ต้องถือตามความคิดของบุคคลธรรมดาผู้ได้เห็นได้ฟัง คำกล่าวของจำเลยจึงไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท
ความผิดฐานดูหมิ่น ถ้าเป็นการกล่าวด้วยวาจา ต้องเป็นกล่าวซึ่งหน้าตามมาตรา 393 โจทก์มิได้อยู่ในที่เกิดเหตุ มิใช่กล่าวซึ่งหน้า จึงไม่ผิดฐานดูหมิ่น.
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจใส่ความโจทก์ต่อหน้าบุคคลที่สามโดยกล่าวต่อหน้าผู้มีชื่อหลายคนว่า “ปอบหมอลำบุญมีมาเข้า บักบุญมีเอย บักชาติหมา แม่กูไปเฮ็ดหยังมึงจึงมาเข้า บักคนชั่วมันเป็นผีปอบ อยู่บ่อนใด๋ก็กินคน อยู่บ่ได้ดอก ไปไล่ให้มันหนีเถอะ เอาไฟสุมบ้านมันเสีย อย่าให้มันอยู่ฮวมบ้าน” ที่จำเลยกล่าวเช่นนี้หมายถึงโจทก์เป็นผีกะ ความจริงโจทก์ไม่ได้เป็นผีกะ ซึ่งทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๒๖
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวไม่เป็นการหมิ่นประมาท ไม่เป็นผิดตามที่โจทก์ขอ ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า หากถ้อยคำดังกล่าวไม่เป็นการหมิ่นประมาท ก็เป็นการดูหมิ่นโจทก์ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยได้นั้น คดีก็ได้ความว่า ขณะจำเลยกล่าวถ้อยคำนั้น โจทก์มิได้อยู่ ณ ที่เกิดเหตุด้วย ไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่นโจทก์ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น ต้องเป็นการแสดงข้อความให้คนฟังเห็นเชื่อ จึงจะเกิดความรู้สึกเกลียดชัง ดูหมิ่นขึ้นได้ การที่จำเลยกล่าวให้คนฟังได้ยินว่า โจทก์เป็นผีปอบก็ดี เป็นชาติหมาก็ดี ความรู้สึกนึกคิดของคนธรรมดาไม่เชื่อว่าโจทก์เป็นเช่นนั้นไปได้ จึงไม่ก่อให้เกิดความเกลียดชังหรือดูหมิ่นแต่อย่างใด ข้อที่โจทก์ฎีกายืนยันว่าเกิดความเสียหายแก่โจทก์นั้น ข้อความใดจะเป็นการทำให้เสียหายแก่ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังนั้น ต้องถือตามความคิดเห็นของบุคคลธรรมดาผู้ได้เห็นได้ฟัง มิใช่ถือเอาแต่ความรู้สึกของโจทก์ คำกล่าวของจำเลยจึงไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท ส่วนความผิดฐานดูหมิ่นนั้น ถ้าเป็นกล่าวด้วยวาจา ต้องเป็นการกล่าวซึ่งหน้า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๓ คดีนี้โจทก์มิได้อยู่ในที่เกิดเหตุ มิใช่กล่าวซึ่งหน้า จึงไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่น พิพากษายืน