คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2553/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา326,328ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งว่า”คดีมีมูลให้ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาหมายเรียกจำเลยแก้คดีและให้นัดสืบพยานโจทก์ในวันเดียวกันแจ้งวันนัดให้จำเลยทราบโดยให้โจทก์นำส่งภายใน3วันมิฉะนั้นถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง”แต่โจทก์มิได้นำส่งหมายเรียกจำเลยแก้คดีและหมายนัดสืบพยานโจทก์ตามคำสั่งจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ทิ้งฟ้องและขอให้ จำหน่ายคดีออกจากสารบบความการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า”ทนายจำเลยมาศาลในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องและลงลายมือชื่อรับทราบในรายงานกระบวนพิจารณาที่ศาลมีคำสั่งว่าคดีโจทก์มีมูลและนัดจำเลยแก้คดีและนัดสืบพยานโจทก์แล้วถือได้ว่าจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วจึงไม่อาจถือว่าโจทก์ ทิ้งฟ้อง ให้ยกคำร้อง”นั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวนเพราะคดีจะต้องพิจารณาต่อไปแม้ว่าศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งต่อไปว่า”จำเลยไม่มาศาลตามกำหนดนัดให้ออกหมายจับให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความจับจำเลยได้เมื่อใดให้โจทก์แถลงต่อศาลเพื่อยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่”ก็เป็นเพียงคำสั่งให้ จำหน่ายคดีชั่วคราวอันเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเช่นกันไม่ใช่เป็นกรณีศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในประเด็นสำคัญแล้วดังนั้นที่จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่นำส่งหมายเรียกตามคำสั่งศาลชั้นต้นเป็นการทิ้งฟ้องจึงเป็นอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา196

ย่อยาว

คดี สืบเนื่อง มาจาก โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย กระทำ ความผิด ฐานหมิ่นประมาท ขอให้ ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328ศาลชั้นต้น ไต่สวน มูลฟ้อง แล้ว มี คำสั่ง ว่า คดี มีมูล ให้ ประทับ ฟ้องของ โจทก์ ไว้ พิจารณา หมายเรียก จำเลย แก้ คดี และ ให้ นัด สืบพยานโจทก์ใน วันเดียว กัน แจ้ง วันนัด ให้ จำเลย ทราบ โดย ให้ โจทก์ นำ ส่งภายใน 3 วัน มิฉะนั้น ถือว่า โจทก์ ทิ้งฟ้อง แต่ โจทก์ มิได้ นำ ส่งหมายเรียก จำเลย แก้ คดี และ หมายนัด สืบพยานโจทก์ ตาม คำสั่ง
จำเลย ยื่น คำร้องขอ ให้ ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ว่า โจทก์ ทิ้งฟ้องและ ขอให้ จำหน่ายคดี ออกจาก สารบบความ
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ว่า ทนายจำเลย มา ศาล ใน วันนัด ไต่สวน มูลฟ้องและ ลงลายมือชื่อ รับทราบ ใน รายงาน กระบวนพิจารณา ที่ ศาล มี คำสั่งว่าคดี โจทก์ มีมูล และ นัด จำเลย แก้ คดี และ นัด สืบพยานโจทก์ แล้วดังนั้น จึง ถือได้ว่า จำเลย ทราบ นัด โดยชอบ แล้ว จึง ไม่อาจ ถือว่าโจทก์ ทิ้งฟ้อง ให้ยก คำร้อง และ ถือว่า จำเลย ไม่มา ศาล ตาม กำหนด นัดให้ ออกหมายจับ แต่ ไม่ทราบ ว่า จะ จับ จำเลย ได้ เมื่อใด จึง ให้ จำหน่ายคดี ออกจาก สารบบความ หาก จับ จำเลย ได้ เมื่อใด ให้ โจทก์ แถลง ต่อ ศาลเพื่อ ยกคดี ขึ้น พิจารณา ใหม่ ภายใน 7 วัน
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “ที่ ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ว่า ถือไม่ได้ว่าโจทก์ ทิ้งฟ้อง ให้ยก คำร้อง เป็น คำสั่ง ระหว่าง พิจารณา ที่ ไม่ทำ ให้คดี เสร็จ สำนวน เพราะ คดี จะ ต้อง พิจารณา ต่อไป แม้ ว่า ศาลชั้นต้น จะ มีคำสั่ง ต่อไป ว่า จำเลย ไม่มา ศาล ตาม กำหนด นัด ให้ ออกหมายจับ ให้ จำหน่ายคดี ออก เสีย จาก สารบบความ จับ จำเลย ได้ เมื่อใด ให้ โจทก์ แถลง ต่อ ศาลเพื่อ ยกคดี ขึ้น พิจารณา ใหม่ ก็ เป็น เพียง คำสั่ง ให้ จำหน่ายคดีชั่วคราว อันเป็น คำสั่ง ระหว่าง พิจารณา เช่นกัน ไม่ใช่ เป็น กรณีศาลชั้นต้น มี คำพิพากษา หรือ คำสั่ง ใน ประเด็น สำคัญ แล้ว ดังนั้นที่ จำเลย อุทธรณ์ ว่า โจทก์ ไม่นำ ส่งหมาย เรียก ตาม คำสั่งศาล ชั้นต้นเป็น การ ทิ้งฟ้อง จึง เป็น อุทธรณ์ ต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ที่ ศาลอุทธรณ์ รับวินิจฉัย อุทธรณ์ ของ จำเลย จึง ไม่ชอบ ไม่มี ผล ให้ จำเลย มีสิทธิ ฎีกาแม้ ศาลชั้นต้น รับ ฎีกา ของ จำเลย มา ศาลฎีกา ก็ ไม่รับ วินิจฉัย ”
พิพากษา ให้ยก คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ และ ยก ฎีกา ของ จำเลย

Share