คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2549/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยตอบคำถามค้านว่า เคยขายไม้ซุงให้ผู้อื่น ในช่วงที่ทำสัญญาขายไม้ให้โจทก์ พยานไม่เคยขายไม้ให้ใครคำเบิกความดังกล่าวพอถือได้ว่าโจทก์ได้ถามค้านพยานจำเลยในเรื่องจำเลยกู้เงินโจทก์ไปทำไม้เสาเข็มส่งผู้สร้างหมู่บ้านจัดสรร ไม่เกี่ยวกับเงินวางมัดจำตามสัญญาซื้อไม้
ตอนที่โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบพยานภายหลังนำพยานเข้าสืบไม่ปรากฏว่าจำเลยได้คัดค้านการนำสืบพยานของโจทก์เสียในขณะที่พยานเบิกความตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา89 วรรค 2จำเลยจะมาคัดค้านภายหลังไม่ได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงิน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วน ให้จำเลยที่ 2 ชำระแทนจนครบ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่จำเลยทั้งสองฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบพยานภายหลัง ไม่ถามค้านพยานจำเลย ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อน เพื่อให้พยานจำเลยอธิบายถึงข้อความที่โจทก์จะนำสืบว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้เอกสารหมาย ล.2 เพื่อเอาเงินไปลงทุนทำไม้เสาเข็มส่งผู้ก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร ไม่เกี่ยวกับเรื่องวางมัดจำตามสัญญาซื้อไม้เอกสาร ล.1 ชอบที่ศาลไม่รับฟังพยานโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 วรรคสองนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ปรากฏในสำนวนว่าจำเลยที่ 1 ได้ตอบคำถามค้านของทนายโจทก์ว่า พยานเคยขายไม้ซุงให้ผู้อื่น ในช่วงที่ทำสัญญาขายไม้ให้โจทก์ พยานไม่เคยขายไม้ให้ใคร คำเบิกความของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวพอถือได้ว่าโจทก์ได้ถามค้านพยานจำเลยในเรื่องจำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ไปทำไม้เสาเข็มส่งผู้สร้างหมู่บ้านจัดสรร ไม่เกี่ยวกับเงินวางมัดจำตามสัญญาซื้อไม้ ตามความมุ่งหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 วรรคแรกแล้ว แต่อย่างไรก็ตามตอนที่โจทก์นำพยานเข้าสืบไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้คัดค้านการนำสืบพยานของโจทก์เสียในขณะที่พยานเบิกความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 วรรคสอง จำเลยจะมาคัดค้านภายหลังเช่นกรณีนี้ไม่ได้ ทั้งศาลล่างทั้งสองก็มิได้หยิบยกเอาคำเบิกความของพยานโจทก์ที่เบิกความว่าจำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์เพื่อเอาไปลงทุนทำไม้เสาเข็มมาเป็นเหตุวินิจฉัยให้โจทก์ชนะคดีแต่อย่างใด หากแต่หยิบยกเอาคำเบิกความและพยานหลักฐานอื่นขึ้นเป็นเหตุวินิจฉัย”

พิพากษายืน

Share