คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2547/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องได้ไถ่ถอนการขายฝากและรับมอบสิทธิการครอบครองที่พิพาทจากจำเลยภายในกำหนดแล้ว แม้จะไม่มีการจดทะเบียนไถ่ถอนการขายฝาก ผู้ร้องก็ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378,1379 จำเลยไม่ใช่เจ้าของที่พิพาทอีกต่อไป ต้องปล่อยที่พิพาทที่ยึดไว้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ จำนวน 180,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมแต่จำเลยไม่ชำระ วันที่ 9 เมษายน 2530 เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดที่ดินตาม น.ส.3 เล่ม 12 หน้า 37 เลขที่ 184 หมู่ที่ 9ตำบลเมืองไพร อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด อ้างว่าเป็นทรัพย์สินของจำเลย
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของผู้ร้องได้จดทะเบียนขายฝากให้แก่จำเลย ผู้ร้องนำเงินไปชำระหนี้ไถ่ถอนการขายฝาก และจำเลยส่งมอบสิทธิครอบครองในที่ดินให้แก่ผู้ร้องแล้วแต่จำเลยบ่ายเบี่ยงไม่ไปจดทะเบียนไถ่ถอนการขายฝากผู้ร้องครอบครองที่ดินมาโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ไม่มีผู้ใดโต้แย้งขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
โจทก์ให้การว่า ผู้ร้องจดทะเบียนขายฝากที่พิพาทให้แก่จำเลยจริงแต่ผู้ร้องไม่ได้นำเงินไปไถ่ถอนที่พิพาทที่ขายฝากตามสัญญาจึงไม่มีการจดทะเบียนไถ่ถอนการขายฝาก ทั้งจำเลยไม่ได้มอบสิทธิครอบครองที่พิพาทกลับคืนแก่ผู้ร้อง ผู้ร้องครอบครองที่พิพาทดังกล่าวในช่วงระยะเวลาไถ่ถอนที่พิพาทแทนจำเลย ทั้งประมาณปี 2528ผู้ร้องยังได้ทำสัญญาเช่าที่พิพาทจากจำเลย ที่พิพาทจึงเป็นของจำเลยไม่ใช่ของผู้ร้อง ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ผู้ร้องได้ไถ่ถอนการขายฝากและรับมอบสิทธิการครอบครองที่พิพาทจากจำเลยภายในกำหนดแล้วแม้จะไม่มีการจดทะเบียนไถ่ถอนการขายฝาก ผู้ร้องก็ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378, 1379จำเลยไม่ใช่เจ้าของที่พิพาทอีกต่อไปต้องปล่อยที่พิพาทที่ยึดไว้
พิพากษากลับ ให้ปล่อยที่พิพาทที่ยึดให้แก่ผู้ร้อง

Share