แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายซึ่งมีความหมายอยู่ในตัวว่าจำเลยต้องโอนที่ดินให้โจทก์โดยปราศจากภาระผูกพันใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น การที่ศาลพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินโดยปลอดจำนองให้แก่โจทก์ จึงไม่เป็นการเกินคำขอของโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่โจทก์ โจทก์ชำระราคาแล้วเป็นเงิน ๕๖๐,๐๐๐ บาท จำเลยโอนที่ดินให้เพียง ๔๔ ไร่ ยังขาดอีก ๑๐๖ ไร่ ขอให้บังคับจำเลยโอนที่ดิน ๑๐๖ ไร่ให้โจทก์ หากโอนไม่ได้ให้ใช้ค่าเสียหาย ๑,๕๙๐,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การว่า โจทก์ชำระค่าที่ดินให้จำเลยบางส่วนแล้วผิดนัดไม่ชำระเงินอีก จำเลยต้องไปกู้เงินผู้มีชื่อมาเพื่อชำระให้แก่เจ้าของที่ดินซึ่งจำเลยทำสัญญาซื้อมาขายให้โจทก์อีกต่อหนึ่ง แล้วรับโอนที่ดินมาจำนองไว้แก่ผู้มีชื่อดังกล่าว โจทก์ยอมให้จำเลยเลิกสัญญา ยอมให้ริบมัดจำและค่าที่ดินที่ชำระแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินตามฟ้องให้แก่โจทก์โดยปลดจำนองให้โจทก์ชำระเงินค่าที่ดินที่ค้าง ๒๔๒,๐๐๐ บาทแก่จำเลยหากไม่สามารถโอนได้ให้จำเลยคืนเงิน ๓๙๐,๐๐๐ บาท และค่าเสียหายอีก ๔๑๐,๐๐๐ บาทแก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์ว่าโจทก์คงจะต้องชำระอีก ๕๖,๐๐๐ บาทเท่านั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ให้จำเลยโอนที่ดินตามฟ้องให้แก่โจทก์โดยปลอดจำนอง ให้โจทก์ชำระเงินค่าที่ดินที่ค้างจำนวน ๖๓,๑๘๐ บาทแก่จำเลย หากไม่สามารถโอนได้ให้จำเลยคืนเงิน ๕๒๐,๐๐๐ บาท และค่าเสียหายอีก ๔๑๐,๐๐๐ บาทแก่โจทก์
จำเลยฎีกาว่า จำเลยต้องรับผิดชดใช้เงินค่าที่ดินให้โจทก์เพียง ๓๙๐,๐๐๐ บาท กับค่าเสียหายอีก ๔๑๐,๐๐๐ บาท และศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์พิพากษาเกินคำขอ
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า สำหรับข้อที่ว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาเกินคำขอของโจทก์หรือไม่ ปรากฏว่าโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายซึ่งมีความหมายอยู่ในตัวว่าจำเลยต้องโอนที่ดินให้โจทก์ได้โดยปราศจากภาระผูกพันใด ๆ ทั้งสิ้น ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินโดยปลอดจำนองให้โจทก์ จึงไม่เป็นการเกินคำขอของโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้วฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน