คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2540/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีอาญาที่โจทก์มีคำขอให้ริบของกลางนั้นประมวลกฎหมายอาญามาตรา 36 เพียงแต่บัญญัติ ว่าในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ริบทรัพย์สินตามมาตรา 33 หรือ 34 แล้วก็ให้เจ้าของแท้จริงยื่นคำเสนอขอคืนต่อศาลภายในหนึ่งปีนับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุดได้เท่านั้น แต่หาตัดสิทธิเจ้าของที่แท้จริงจะขอยื่นคำเสนอก่อนเวลาดังกล่าวไม่ฉะนั้น เจ้าของที่แท้จริงจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนของกลางระหว่างพิจารณาคดีได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27, 32 พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. 2469 มาตรา 4, 5, 6, 7, 8, 9 กับขอให้ริบเรือเดินสมุทรชื่อ “ฮะเฮง” และ “ลักษมี” รวม 2 ลำ รถยนต์บรรทุกน้ำมันหมายเลขทะเบียน 70-0201 สตูล 1 คัน ถังบรรจุน้ำมันขนาด 8,000 ลิตร 1 ถัง สายยางดูดน้ำมันยาว 30 เมตร 1 เส้น และเครื่องปั้มของเหลว 1 เครื่อง ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 70-0201 สตูล ที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งริบ ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจ ในการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ของกลางและผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้คืนรถยนต์บรรทุกสิบล้อหมายเลขทะเบียน 70-0201 สตูล ให้แก่ผู้ร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาข้อแรกว่า ขณะผู้ร้องยื่นคำร้องศาลยังไม่ได้สั่งริบของกลาง ผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอคืนไม่ได้ เห็นว่าในคดีอาญาที่โจทก์มีคำขอให้ริบของกลางนั้น ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 36 เพียงแต่บัญญัติว่าในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ริบทรัพย์สินตามมาตรา 33 หรือ 34 แล้วก็ให้เจ้าของแท้จริงยื่นคำเสนอขอคืนต่อศาลภายในหนึ่งปีนับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุดได้เท่านั้น แต่หาตัดสิทธิเจ้าของที่แท้จริงจะขอยื่นคำเสนอก่อนเวลาดังกล่าวไม่ ฉะนั้นผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนของกลางระหว่างพิจารณาคดีได้
โจทก์ฎีกาข้อสุดท้ายว่า ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลางเพื่อประโยชน์ของนางสาวปาริชาติ จุลมณีโชติ ผู้เช่าซื้อเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต ข้อนี้ นายวิสุทธิ์ ตรีไวย เบิกความเป็นพยานผู้ร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ของกลาง ได้ให้นางสาวปาริชาติเช่าซื้อไป ต่อมานางสาวปาริชาติผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่งวดที่ 12 ร้อยตำรวจเอก จักรพร แท่นทอง พนักงานสอบสวนเบิกความเป็นพยานโจทก์ว่า ชั้นสอบสวนนางสาวปาริชาติ ให้การว่ารถยนต์ของกลาง นางสาวปาริชาติเช่าซื้อมาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2534 ซึ่งสอดคล้องกับทางนำสืบของผู้ร้องได้ให้นางสาวปาริชาติเช่าซื้อรถยนต์ของกลางไปในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2534 เห็นว่า ผู้ร้องมีพยานบุคคลและพยานเอกสารมาแสดง พยานผู้ร้องจึงมีน้ำหนักน่าเชื่อ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลาง นางสาวปาริชาติได้ให้การชั้นสอบสวนด้วยว่าเมื่อเช่าซื้อมาแล้วได้เข้าร่วมจดทะเบียนประกอบการขนส่งกับบริษัทสตูลขนส่ง จำกัด รับจัดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป เห็นว่าตามพฤติการณ์ดังกล่าวน่าเชื่อว่านางสาวปาริชาตินำรถยนต์ของกลางไปประกอบการขนส่ง โดยผู้ร้องมิได้รู้เห็นเกี่ยวข้องด้วย ข้อเท็จจริงจึงไม่พอฟังว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลางได้ ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
พิพากษายืน

Share