แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เรือ ส.ของพวกจำเลยแล่นพุ่งเข้าชนเรือช. ของพวกผู้เสียหายโดยเจตนา ขณะเรือ ช. ใกล้จะจม พวกลูกเรือส. กระโดดลงไปในเรือใช้ไม้ตีพวกผู้เสียหายจนต้องกระโดดลงไปในน้ำ พวกจำเลยบางคนกระโดดลงไปใช้เชือกคล้องขึ้นไปบนเรือใช้มีดแทงแล้วโยนลงน้ำ จำเลยที่ 1 ใช้ปืน ยิง ค. ซึ่งว่ายอยู่เรือถอยหลังมาหา ผ.ผู้ตายมีคนจับแขนผ. ลากไปทางหัวเรือ ดึงพาดไว้กับแคมเรือ พวกลูกเรือทั้งหมดช่วยกันรุมตีแทง ผ. แล้วโยนลงน้ำจำเลยที่ 3 กระโดดลงไปในน้ำใช้มีดแทงพวกผู้เสียหาย ส. ผู้ตายถูกดึงขึ้นไปบนเรือ แล้วพวกจำเลยทั้งหมด วิ่งไปใช้มีด ไม้ ปืน ทำร้ายแล้วช่วยกันโยนลงน้ำ มีประจักษ์พยานหลายปากยืนยันความผิดของจำเลยที่ 1 หาก จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ พยานโจทก์ก็มีน้ำหนักมั่นคงพอลงโทษจำเลยได้โดยไม่ต้องอาศัยคำรับสารภาพของจำเลยที่ 1 ดังนั้นคำรับสารภาพของจำเลยที่ 1 ในชั้นสอบสวนและชั้นศาลจึงไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา การกระทำผิดครั้งแรกไม่ใช่เหตุบรรเทาโทษ เป็นการกระทำโดยจิตใจที่โหดร้ายทารุณเหี้ยมโหดไร้มนุษยธรรม กระทำแก่ผู้ไม่มีทางต่อสู้และไม่มีทางหลบหนี เป็นเหตุให้คนตายถึง 6 คนจึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษที่จะลดโทษให้แก่จำเลยที่ 1