แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ยื่นฟ้องในวันที่ 7 มีนาคม 2518 ขอให้เพิกถอนคำสั่งอุทธรณ์ของอธิบดีและคำสั่งพนักงานเงินทดแทน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นว่า โจทก์ไม่ได้วางเงินตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ข้อ 60 ให้โจทก์วางเงินภายใน 3 วัน แล้วจะสั่งต่อไป ดังนี้เมื่อตามคำขอท้ายฟ้องระบุว่าโจทก์รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว ก็ต้องถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งของศาลในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องนั่นเอง ซึ่งย่อมมีผลตั้งต้นคำนวณเป็นหนึ่งในวันรุ่งขึ้น และสิ้นสุดที่จะต้องวางเงินตามคำสั่งภายในวันที่ 10 มีนาคม 2518 เมื่อโจทก์ไม่วางเงินภายในเวลาดังกล่าวและศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องไปแล้ว โจทก์จะขอวางเงินโดยอ้างว่าเพิ่งทราบคำสั่งเมื่อวันที่ 12 มีนาคม2518 หาได้ไม่ แม้โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ป่วยก่อนที่จะทราบคำสั่งให้วางเงิน ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังที่โจทก์ทราบคำสั่งศาลแล้วเช่นกัน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งอุทธรณ์เงินทดแทนที่ 7/2518 ลงวันที่ 11กุมภาพันธ์ 2518 และคำสั่งพนักงานเงินทดแทน กรมแรงงาน ที่ 591/2517ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2517 ที่สั่งให้โจทก์จ่ายเงินทดแทนแก่ผู้มีสิทธิในกรณีที่นายบุญช่วย นุชเจริญ ลูกจ้างของโจทก์ถึงแก่ความตาย
ในชั้นรับฟ้อง ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ไม่ได้วางเงินตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 60 ให้โจทก์วางเงินภายใน 3 วัน แล้วจึงจะสั่งฟ้องต่อไป ต่อมาโจทก์ไม่วางเงินภายในกำหนด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งไม่รับฟ้อง
วันที่ 13 มีนาคม 2518 โจทก์ยื่นคำร้องว่า ศาลมีคำสั่งให้วางเงินเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2518 แต่โจทก์เพิ่มทราบคำสั่งวันที่ 12 มีนาคม 2518 โดยวันที่ 8ที่ 9 เป็นวันเสาร์และวันอาทิตย์ วันที่ 10 วันที่ 11 โจทก์ป่วยเป็นไข้หวัด ปรากฏตามใบรับรองแพทย์ท้ายคำร้อง ขอวางเงินต่อศาล
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การที่โจทก์ไม่รอเพื่อฟังคำสั่งศาลเป็นความผิดของโจทก์เอง ข้ออ้างของโจทก์ไม่เป็นเหตุให้ศาลขยายระยะเวลาวางเงินได้ ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
วินิจฉัยว่า เห็นว่าโจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 7 มีนาคม 2518 ตามคำขอท้ายฟ้องระบุว่าโจทก์รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ยังไม่ได้วางเงินตามประกาศกระทรวงหมาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 60ให้โจทก์วางเงินในกำหนด 3 วัน โดยศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้วางเงินในวันเดียวกับที่โจทก์ยื่นฟ้องนั้นเอง ซึ่งต้องหมายความว่าโจทก์ทราบคำสั่งศาลในวันที่ยื่นฟ้อง เพราะโจทก์ได้ให้คำรับรองไว้ว่าตนรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอก็ให้ถือว่าทราบแล้วและปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งดังกล่าวข้างต้นในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องนั่นเอง เมื่อถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งในวันที่ยื่นฟ้อง ก็ย่อมมีผลให้ตั้งต้นคำนวณเป็นหนึ่งในวันรุ่งขึ้น กรณีนี้ระยะเวลาสิ้นสุดที่จะต้องทำตามคำสั่ง คือ โจทก์ต้องนำเงินมาวางศาลภายในวันที่ 10 มีนาคม 2518 ที่โจทก์ฎีกาว่าโจทก์ป่วยก่อนที่โจทก์ทราบ จึงไม่สามารถจะปฏิบัติตามคำสั่งศาลได้นั้น ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังที่โจทก์ทราบคำสั่งศาลแล้วเช่นกัน คดีจึงไม่มีเหตุผลสมควรที่จะอนุญาตให้โจทก์วางเงินตามขอได้
พิพากษายืน