แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ให้เช่าทวงเรือที่ให้เช่าคืนผู้เช่าไม่ยอมคืนโดยอ้างว่าไม่ได้เช่าเป็นแต่ผู้นั้นขายให้ตน และไม่ปรากฎว่าผู้เช่าทำอะไรแก่เรือนั้นอีกดังนี้ไม่เป็นการเบียดบัง จึงไม่เป็นผู้ผิดฐานยักยอก
สามีจำเลยเถียงว่าได้ซื้อเรือรายพิพาท ผู้เสียหายไปต่อว่าจำเลย ๆ ว่าไม่รู้ดังนี้ แม้จำเลยให้การในศาลว่าผู้เสียหายขายให้ คดีก็ฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้เถียงว่าผู้เสียหายขายให้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยักยอกเรือของบางภู่ที่ให้จำเลยเช่าไป จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้เช่า ต่อสู้ว่าเจ้าทรัพย์ขายเรือนั้นให้จำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ลงโทษตาม ม.๓๑๔
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่ารูปคดีจะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานยักยอกไม่ได้ โดยเหตุ ๒ ประการ คือ ๑. ตามคำผู้เสียหาย สามีจำเลยต่างหากเป็นผู้เถียงว่าผู้เสียหายขายเรือให้จำเลย เจ้าทรัพย์ไปต่อว่าจำเลย ๆ ว่าไม่รู้ คดีฟังไม่ได้ถนัดว่าจำเลยเถียงว่าได้ซื้อไว้
๒. แม้ฟังว่าจำเลยเถียงว่าซื้อ เพียงเท่านี้ไม่เป็นการเบียดบังเอาไว้ อันเป็นองค์เกณฑ์สำคัญของความผิดนอกจากนั้นแล้วไม่ปรากฎว่าจำเลยได้กระทำอะไรแก่เรือนั้นอีก หากฟังว่าเพียงเท่านี้เป็นเบียดบังเอาไว้แล้ว กรณีผู้เช่าไม่ยอมคืนจะกลายเป็นผิดฐานยักยอกเสียโดยมากเช่น เวลาผู้ให้เช่าไปทวงคืน ผู้เช่าไม่ยอมคืนจะเป็นผิดฐานยักยอกไปหมดซึ่งหาใช่ความมุ่งหมายของมาตรา ๓๑๔ ไม่ จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น