คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำพิพากษาอันถึงที่สุดที่วินิจฉัยว่า กรรมสิทธิในไม้ซุงรายพิพาทเป็นของโจทก์นั้นย่อมใช้ยันแก่บุคคลภายนอกได้ เว้นแต่บุคคลภายนอกจะพิสูจน์ได้ว่า ตนมีสิทธิดีกว่า

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้ซื้อไม้ไว้จากนายเต๊ก ๔๐ ท่อน ได้ตรวจรับถูกต้องแล้ว และโจทก์ได้ตีตราของโจทก์ไว้ ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ของโจทก์ ต่อมาจำเลยได้ออกเงินให้นายเต๊กฟ้องโจทก์โดยปรารถนาจะได้ไม้รายนี้ ในคดีที่โจทก์เป็นความกับนายเต๊กนั้นศาลตัดสินว่าเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ทั้ง ๔๐ ท่อน การที่จำเลยนำตราของจำเลยไปตีที่ไม้ซุงโจทก์นั้น ทำให้โจทก์เสียหายจึงขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๑๕๐๐ บาท และขออย่าให้จำเลยเกี่ยวข้องในไม้ ๔๐ ท่อนนั้น
จำเลยให้การว่า ไม้เป็นของจำเลยซื้อจากนายเต๊กและได้ประทับตราของจำเลยไว้ในไม้นั้น สัญญาที่โจทก์ทำกับนายเต๊กนั้นทราบว่าโจทก์ผิดสัญญา นายเต๊กได้บอกเลิกแล้วดวงตราที่โจทก์ประทับไม่ใช่ดวงตราของโจทก์ ไม่ทำให้โจทก์ได้กรรมสิทธิ คำพิพากษาที่โจทก์อ้างจำเลยไม่เห็นพ้องด้วย
ศาลจังหวัดชัยนาทพิพากษาว่า คำพิพากษาของศาลคดีแดงที่ ๑๐๘/๒๔๘๖ ซึ่งวินิจฉัยว่ากรรมสิทธิในไม้รายนี้เป็นของโจทก์นั้น โจทก์ใช้ยันบุคคลภายนอกได้ตาม ป.วิแพ่งมาตรา ๑๔๕ อนุมาตรา ๒ จำเลยจะเถียงกรรมสิทธิโจทก์ได้ต้องพิศูจน์ว่าจำเลยมีสิทธิดีกว่าโจทก์ไม้จึงยังเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดที่วินิจฉัยว่ากรรมสิทธิในไม้ซุงรายพิพาทเป็นของโจทก์นั้น ย่อมใช้ยันแก่บุคคลภายนอกคือจำเลยคดีนี้ได้ จำเลยจะโต้เถียงว่า คำพิพากษานั้นไม่ถูกต้องด้วยประการใด หาได้ไม่จำเลยชนะคดีได้ก็ต้องพิสูจน์ว่า จำเลยนี้มีสิทธิดีกว่าโจทก์ หลักฐานพะยานในท้องสำนวนไม่มีทางจะเห็นว่าจำเลยมีสิทธิดีกว่าโจทก์ จึงพิพากษายืน

Share