คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2524-2525/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เดิมจำเลยมีคำสั่งที่ 3507/2523 กำหนดให้พนักงานจ่ายงานจ่ายตั๋ว จ่ายเบี้ยเลี้ยงปฏิบัติงานนอกเหนือชั่วโมงทำงานปกติในช่วงเวลาตั้งแต่ 4.00-8.00 นาฬิกา และไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงอื่นใด ให้ได้รับค่าอาหารวันละ 20 บาทต่อมาจำเลยมีคำสั่งที่ 540/2525 กำหนดเวลาการทำงานตามปกติของพนักงานจ่ายงานในเขตการเดินรถที่ 6 เป็นสองผลัดผลัดที่ 1 ทำงานระหว่าง 4.00-12.30 นาฬิกาผลัดที่ 2 ทำงานระหว่าง 11.00-19.30 นาฬิกา ซึ่งนายจ้างมีอำนาจที่จะกำหนดเวลาทำงานของลูกจ้างได้ตามความจำเป็นและความเหมาะสมแก่ ลักษณะงานในหน้าที่ของลูกจ้าง ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 3 และข้อ 68 อันถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง โจทก์ย้ายมาเป็นพนักงานจ่ายงานประจำเขตการเดินรถที่ 6 จึงต้องอยู่ภายใต้บังคับของคำสั่งดังกล่าว ส่วนคำสั่งที่ 3507/2523 มิใช่เป็นเรื่อง กำหนดเวลาทำงานปกติของพนักงานแต่อย่างใด คำสั่งที่ 540/2525 ไม่เป็นการขัดหรือแย้งกับคำสั่งที่ 3507/2523 จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าคำสั่งที่ 540/2525 ไม่เป็นคุณแก่โจทก์หรือไม่โจทก์มีเวลาทำงานในช่วงเวลา 4.00-8.00 นาฬิกา แต่มิใช่เป็นการทำงานนอกเหนือชั่วโมงทำงานปกติตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างโจทก์ จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนหรือค่าอาหารตามคำสั่งที่ 3507/2523 ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า การให้พนักงานทำงานเป็นผลัดไม่มีหลักฐาน ว่ามีชื่อและลายมือชื่อผู้ปฏิบัติงาน จึงฟังไม่ได้นั้น เป็นการโต้เถียง ข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา54 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์ทำงานเป็นลูกจ้างประจำอยู่เขตการเดินรถที่ 6 ทำหน้าที่เป็นพนักงานจ่ายงาน จำเลยได้มีคำสั่งที่ 3507/2523ข้อ 11 กำหนดให้พนักงานจ่ายงาน จ่ายตั๋ว จ่ายเบี้ยเลี้ยง ปฏิบัติงานนอกเหนือชั่วโมงทำงานปกติและไม่ได้เบี้ยเลี้ยงอื่นใดให้ได้รับค่าอาหารวันละ 20 บาทที่มาทำงานก่อนเวลาทำงานปกติตั้งแต่เวลา 4.00 – 8.00 นาฬิกา โจทก์มาทำงานทุกวันตั้งแต่เวลา 4.00 นาฬิกา ก่อนเวลาทำงานปกติ จึงมีสิทธิได้รับค่าอาหารวันละ 20 บาท แต่จำเลยไม่ยอมจ่ายให้ ขอให้พิพากษาให้จำเลยค่าอาหารแก่โจทก์สำนวนแรก 350 วัน โจทก์สำนวนหลัง 341 วัน

จำเลยให้การว่า เขตการเดินรถที่ 6 ที่โจทก์ทำงานอยู่ได้กำหนดเวลาทำงานปกติของพนักงานจ่ายงานไว้ว่า ผลัดที่ 1 ให้ปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา 4.00 – 12.30 นาฬิกา มีเวลาพัก 1 ชั่วโมง ส่วนผลัดที่ 2 เริ่มเวลา 11.00 – 19.30 นาฬิกา เวลาทำงานของโจทก์ทั้งสองเป็นการทำงานในเวลาปกติ จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าอาหาร ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า จำเลยมีคำสั่งที่ 540/2525 กำหนดเวลาปกติของลูกจ้างเปลี่ยนไปจากคำสั่งที่ 3507/2523โดยกำหนดเวลาการทำงานจากเวลาเดิม 8.30 นาฬิกา มาเป็น 4.00 นาฬิกาไปจนถึงเวลา 12.30 นาฬิกา ไม่เป็นคุณแก่โจทก์ โจทก์มีสิทธิได้รับค่าอาหารตามคำสั่งเดิมที่ 3507/2523 นั้น เห็นว่า คำสั่งที่ 540/2525 เป็นคำสั่งที่กำหนดเวลาทำงานปกติของพนักงานจ่ายงานในเขตการเดินรถที่ 6 เป็นผลัด คือ ผลัดที่ 1ทำงานตั้งแต่เวลา 4.00 นาฬิกา ถึงเวลา 12.30 นาฬิกา ผลัดที่ 2 ทำงานตั้งแต่เวลา 11 นาฬิกา ถึงเวลา 19.30 นาฬิกา ซึ่งนายจ้างมีอำนาจที่จะกำหนดเวลาทำงานดังกล่าวของลูกจ้างตามความจำเป็นและความเหมาะสมแก่ลักษณะงานในหน้าที่ของลูกจ้างนั้นได้ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 3 และข้อ 68 อันถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง โจทก์ย้ายจากตำแหน่งธุรการมาเป็นพนักงานจ่ายงานประจำเขตการเดินรถที่ 6 จึงต้องอยู่ภายใต้บังคับคำสั่งของจำเลยดังกล่าว ส่วนคำสั่งที่ 3507/2523 เป็นระเบียบทั่วไปเกี่ยวกับการจ่ายเบี้ยเลี้ยงค่าอาหาร และค่าจ้างเหมาพิเศษแก่พนักงาน ซึ่งกำหนดให้พนักงานจ่ายงานที่ปฏิบัติงานนอกเหนือชั่วโมงทำงานปกติในระหว่าง 4.00 นาฬิกา ถึง 8.00 นาฬิกา และไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงอื่นใด ให้ได้รับค่าอาหารวันละ 20 บาท มิใช่เป็นเรื่องกำหนดเวลาทำงานปกติของพนักงานแต่อย่างใด คำสั่งที่ 540/2525 ไม่เป็นการขัดหรือแย้งกับคำสั่งที่ 3507/2523 จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าคำสั่งที่ 540/2525 ไม่เป็นคุณแก่โจทก์อย่างใดหรือไม่ โจทก์มีเวลาทำงานในช่วงเวลา 4.00 นาฬิกา ถึง 8.00 นาฬิกา แต่มิใช่เป็นการทำงานนอกเหนือชั่วโมงทำงานปกติตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างโจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนหรือค่าอาหารตามคำสั่งที่ 3507/2523

ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า การให้พนักงานทำงานเป็นผลัดไม่มีหลักฐานว่ามีชื่อและลายมือชื่อของผู้ปฏิบัติงาน จึงฟังไม่ได้มีการจัดให้พนักงานทำงานเป็นผลัดจริงตามข้ออ้างของจำเลยนั้น เห็นว่าเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 54 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายืน

Share