แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ จำเลยขอยืดเวลาชำระเงินตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นออกไป 7 วันศาลชั้นต้นอนุญาตจำเลยวางเงินนี้เกินกำหนดไป 1 วัน โดยแถลงว่าเพิ่งหาเงินได้ครบในวันนั้น ศาลชั้นต้นสั่งไม่ส่งอุทธรณ์คำสั่งไปศาลอุทธรณ์ คำสั่งศาลชั้นต้นนี้จำเลยอุทธรณ์ได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาได้ ศาลฎีกาพิพากษายืนเพราะศาลมิได้ขยายเวลา 7 วันนี้ให้ จึงเป็นการที่จำเลยมิได้ปฏิบัติตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234
ย่อยาว
จำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ลงวันที่ 19 เดือนพฤษภาคมพุทธศักราช 2521
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องเลขที่ 26 ถนนชลวิถีอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจำเลยเช่าจากโจทก์ และให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 200 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยกับบริวารจะออกไปจากห้องเช่า กับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์
จำเลยให้การว่าเช่าห้องพิพาทจากนายอาวุธ มีข้อตกลงให้จำเลยซ่อมแซมห้องเช่าและกำหนดเวลาเช่า 5 ปี ยังไม่ครบกำหนดเวลานั้น โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องเช่าและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 200 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกจากห้องเช่า กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์กำหนดค่าทนายความ 150 บาท
จำเลยยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าววันที่ 14 ตุลาคม 2520 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ เนื่องจากเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามกฎหมาย และจำเลยทราบคำสั่งวันเดียวกัน
ต่อมาวันที่ 24 ตุลาคม 2520 จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ พร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการชำระเงินตามคำพิพากษาในการอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์นั้นไป 7 วัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตตามคำร้อง
ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2520 จำเลยยื่นคำแถลงขอวางเงิน จำนวน1,200 บาทที่จะต้องชำระให้โจทก์ตามคำพิพากษาซึ่งศาลขยายระยะเวลาให้อ้างเหตุที่ล่าช้าไป 1 วันเพราะจำเลยได้พยายามหาเงินได้ครบในวันนั้น โจทก์คัดค้านว่าพ้นกำหนดเวลาที่ได้รับอนุญาตจากศาลแล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในเรื่องที่จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ว่าจำเลยนำเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษามาวางเกินกำหนดเวลา 7 วัน ตามที่อนุญาตและโจทก์คัดค้านคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ไม่ส่งคำร้องนี้ไปยังศาลอุทธรณ์
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมและความสงบเรียบร้อยกับศีลธรรมอันดีของประชาชน ศาลชั้นต้นควรอนุญาตให้จำเลยวางเงินซึ่งจะต้องชำระตามคำพิพากษาที่วางล่าช้าไป 1 วันนั้น แล้วมีคำสั่งรับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการดังกล่าว
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ในปัญหาที่จำเลยฎีกาขอให้รับเงินซึ่งจำเลยจะต้องนำมาชำระตามคำพิพากษาในการอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลาดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 และจำเลยนำมาวางศาลล่าช้ากว่าที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งขยายระยะเวลาให้ไป 1 วันนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยมิได้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องแสดงพฤติการณ์พิเศษก่อนสิ้นระยะเวลาเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งขยายระยะเวลาออกไปอีกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 ศาลมิได้ออกคำสั่งขยายระยะเวลาให้จำเลยวางเงินได้ในวันที่จำเลยแถลงขอวางเงิน แม้จะพิจารณาตามคำแถลงขอวางเงินของจำเลยที่อ้างว่าจำเลยเพิ่งหาเงินได้ครบ ก็มิใช่เป็นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ศาลไม่สามารถมีคำสั่งขยายระยะเวลาหรือที่ทำให้จำเลยไม่อาจขอขึ้นมาได้ก่อนสิ้นระยะเวลานั้น จึงไม่มีทางใด ๆ ที่ศาลจะอนุญาตให้จำเลยวางเงินเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายต่อไปได้อีก ต้องถือว่าคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยมิได้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ