แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทยื่นคำร้องขอแก้เวลาเกิดเหตุ เวลากลางวัน เนปเวลากลางคืน ไนวันที่จำเลยไห้การนั้น โดยกล่าวว่าเวลาไนฟ้องเดิมพิมพ์ผิดความจิงไปถือว่าเปนเหตุอันควนไห้แก้ได้ตาม ม.163
โจทขอแก้เวลาเกิดเหตุโดยที่จำเลยซาบเวลาเกิดเหตุดีหยู่แล้ว สแดงว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้หย่างได
การขอแก้เวลบาเกิดเหหตุถือว่าเปนการแก้รายละเอียดไนฟ้อง
ย่อยาว
โจทฟ้องว่า เวลากลางวันจำเลยได้ทำร้ายร่างกายนายตุ่น ขอไห้ลงโทส
จำเลยไห้การว่า เวลาเกิดเหตุนั้นเปนเวลากลางวันตกดินแล้ว และจำเลยได้กะทำเพื่อป้องกันตัว
ไนวันที่จำเลยไห้การนั้นเอง โจทหยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องว่า โจทยื่นฟ้องจำเลยไว้แล้ว แต่ไนฟ้องพิมพ์เวลาเกิดเหตุว่าเปนเวลากลางวันซึ่งผิดจากความจิงไป ความจิงเวลาเกิดเหตุเปนเวลากลางคืน โจทจึงขอแก้ฟ้องเปนเวลากลางคืน
สาลชั้นต้นไม่อนุญาตไห้แก้และไม่อนุญาตไห้โจทสืบพยานเพราะโจทจะสืบตามที่แก้ว่า เวลาเกิดเหตุเปนเวลากลางคืนจึงพิพากสายกฟ้อง
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์เห็นว่า ไนคำร้องกล่าวความเปนที่เข้าไจได้แล้วว่า เปนเพราะพิมพ์ผิดเปนเหตุอันควนขอแก้ได้ตาม แ.ว.อ.ม.๑๖๓ และากรแก้เวลาเกิดเหตุเปนเพียงแก้รายละเอียด ซึ่งกดหมายยอมไห้แก้ได้ตาม ป.ว.อ.ม.๑๖๔ และคดีนี้จำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้หย่างได เวลาเกิดเหตุจำเลยก็ซาบดีหยู่แล้ว จึงพิพากสาไห้ยกคำพิพากสาสาลชั้นต้น ไห้โจทแก้ฟ้องได้ ไห้สาลชั้นต้นดำเนินการพิจารนาพิพากสาต่อไป
จำเลยอีกา สาลดีกาเห็นว่า จำเลยมิได้หลงต่อสู้ไนข้อที่ผิด ถือไม่ได้ว่าจำเลยเสียเปรียบและไนคำร้องขอแก้ก็ได้สแดง เหตุผลเปนที่เข้าไจได้แล้วว่าเพราะพิมพ์ผิดจึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์