คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2516/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

ใบแสดงรายการค่าใช้จ่ายในการที่จำเลยจ้างโจทก์โฆษณาสินค้าของจำเลยหรือใบแจ้งหนี้ลงวันที่31มกราคม2523มีข้อความระบุให้ชำระหนี้ภายใน45วันคือภายในวันที่16มีนาคม2523ซึ่งถือได้ว่าโจทก์ให้เวลาจำเลยในการชำระหนี้45วันก่อนครบระยะเวลาดังกล่าวโจทก์ย่อมจะใช้สิทธิฟ้องเรียกร้องหนี้รายนี้จากจำเลยยังไม่ได้อายุความจึงต้องเริ่มนับแต่วันถัดจากวันครบกำหนด45วันเป็นต้นไปตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา169บัญญัติไว้โจทก์ฟ้องคดีนี้ในวันที่16มีนาคม2525จึงยังไม่ขาดอายุความ.(ที่มา-เนติฯ)

ย่อยาว

ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ชำระ เงิน 148,265.96 บาท พร้อม ดอกเบี้ยอัตรา ร้อยละ 13.2 ต่อปี ของ ต้นเงิน 177,299 บาท นับ ถัด จาก วันฟ้อง(16 มีนาคม 2525) เป็นต้นไป จนกว่า จะ ชำระ ให้ โจทก์ เสร็จ ศาลอุทธรณ์พิพากษา แก้ เป็น ว่า ให้ จำเลย ชำระ เงิน 117,299 บาท พร้อม ดอกเบี้ยอัตรา ร้อยละ เจ็ดครึ่ง ต่อปี นับแต่ วันที่ 16 มีนาคม 2523 จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ข้อกฎหมาย ว่า ‘ข้อเท็จจริง ฟัง ได้ ว่า จำเลย ตกลงว่าจ้าง โจทก์ ให้ โฆษณา สินค้า คือ รถยนต์ ยี่ห้อ เรโนลด์ 20 ทีเอสโดย โจทก์ มี หน้าที่ทำ แผน การ โฆษณา และ ภาพ ที่ จะ ออก โฆษณา ให้จำเลย ตรวจ ดู ก่อน เมื่อ เจ้าหน้าที่ ของ จำเลย ตรวจดู และ อนุมัติแล้ว โจทก์ จึง นำ ออก โฆษณา ได้ เมื่อ โฆษณา แล้ว โจทก์ จะ ส่งใบแจ้งหนี้ ไป เรียก เก็บ เงิน ที่ โจทก์ จ่าย ทดรอง รวมทั้ง ค่าบริการวิชาชีพ หรือ ค่าจ้าง จาก จำเลย ซึ่ง จำเลย มี หน้าที่ ต้อง จ่าย ให้โจทก์ใน เดือน มกราคม 2523 โจทก์ ได้ ดำเนินการ ให้ มี การ ออก โฆษณาสินค้า รถยนต์ ยี่ห้อ เรโนลด์ ของ จำเลย ใน หนังสือพิมพ์ และ นิตยสารต่างๆ หลายฉบับ คิด เป็น เงิน รวม 117,299 บาท ปรากฏ ตาม ใบแสดง รายการค่าใช้จ่าย ใน การ โฆษณา เอกสาร หมาย จ.3 ซึ่ง โจทก์ ได้ แจ้ง ให้ จำเลยชำระ เงิน ดังกล่าว แล้ว แต่ จำเลย ปฏิเสธ การ จ่าย เงิน อ้าง ว่า การโฆษณา ใน หนังสือพิมพ์ ตาม เอกสาร หมาย จ.10 ถึง จ.14 หรือ ล.13 ถึงล.17 ไม่ ได้ รับ อนุมัติ จาก จำเลย ให้ ออก โฆษณา และ เป็น การ โฆษณาผิด ความ ประสงค์ ของ จำเลย เพราะ การ ที่ โฆษณา เป็น ภาพ รถยนต์เรโนลด์ ชนิด 6 สูบ ซึ่ง จำเลย ไม่ ได้ เป็น ผู้จำหน่าย ใน ประเทศไทยประเด็น แรก ที่ จะ ต้อง วินิจฉัย มี ว่า การ โฆษณา ตาม เอกสาร หมายจ.10 ถึง จ.15 หรือ ล.13 ถึง ล.17 ได้ รับ อนุมัติ จาก จำเลย ให้ ออกโฆษณา แล้ว หรือไม่ โจทก์ มี พยาน คือ นาย วิศิษฐ์ ธรรมธนากร ผู้บริหารงาน โฆษณา ของ โจทก์ เบิกความ ว่า ระหว่าง เดือน ธันวาคม 2522 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2523 จำเลย ได้ ส่ง ภาพ รถยนต์ เรโนลต์ จำนวน หลาย ภาพ ไปให้ โจทก์ ออกแบบ ทำ สเก็ตซ์ และ ภาพ อาร์ตเวอร์ค เพื่อ ลง โฆษณา ซึ่งพยาน ได้ ทำ สเก็ตซ์ และ ภาพ อาร์ตเวอร์ค ส่ง ไป ให้ จำเลย และ ได้ รับอนุมัติ จาก จำเลย แล้ว โดย ภาพ สเก็ตซ์ นาย ไนเจิ้ล แลปปิ้ง เป็นผู้ อนุมัติ ส่วน ภาพ อาร์ตเวอรค์ นาย ถิระพร เนาว์ถิ่นสุข เป็น ผู้อนุมัติ ให้ ออก โฆษณา ได้ นาย ถิระพร เนาว์ถิ่นสุข ซึ่ง เป็น ผู้จัดการแผนก การตลาด และ โฆษณา ของ จำเลย ระหว่าง กลางปี พ.ศ. 2522 ถึง ต้นปีพ.ศ. 2523 เบิกความ ว่า ภาพ ตาม เอกสาร หมาย จ.10 ถึง จ.14 จำเลย ส่งไป ให้ โจทก์ เพื่อ ทำ โฆษณา และ พยาน เป็น ผู้ อนุมัติ ภาพ อาร์ตเวอร์คตาม เอกสาร ดังกล่าว แทน นาย ไนเจิ้ล แลปปิ้ง ซึ่ง ไม่ อยู่ เพราะเดินทาง ไป ประเทศ อังกฤษ ส่วน จำเลย นำสืบ ว่า ภาพ ตาม เอกสาร หมายจ.10 ถึง จ.14 เป็น ภาพ รถยนต์ เรโนลต์ ชนิด 6 สูบ ซึ่ง จำเลย มิได้เป็น ผู้ จำหน่าย ใน ประเทศไทย และ นาย ถิระพร ไม่ มี อำนาจ อนุมัติการ โฆษณา รายนี้ เพราะ มี ค่าจ้าง สูง เกินกว่า 5,000 บาท จำเลย ไม่ มีพยาน มา สืบ เลย ว่า จำเลย ไม่ ได้ ส่ง ภาพ ตาม เอกสาร หมาย จ.10 ถึง จ.14 ไป ให้ โจทก์ พิเคราะห์ แล้ว เห็น ว่า โจทก์ เป็น เพียง ผู้ รับจัดการ โฆษณา สินค้า ให้ ผู้ ว่าจ้าง หาก จำเลย ไม่ ส่ง ภาพ สินค้า ที่จะ ให้ โฆษณา ไป ให้ โจทก์ โจทก์ ก็ คง จะ ทำ ภาพ สเก็ตซ์ และ ภาพอาร์ตเวอร์ค ไม่ ได้ จึง น่าเชื่อ ว่า จำเลย ได้ ส่ง ภาพ ตาม เอกสารหมาย จ.10 ถึง จ.14 ไป ให้ โจทก์ ส่วน ที่ จำเลย ได้ อนุมัติ ให้ ออกโฆษณา ภาพ ตาม เอกสาร หมาย จ.10 ถึง จ.14 แล้ว นั้น โจทก์ มี นาย ถิระพรซึ่ง เคย เป็น ผู้จัดการ แผนก การตลาด และ โฆษณา ของ จำเลย มา เป็น พยานยืนยัน ว่า เป็น ผู้ อนุมัติ ภาพ อาร์ตเวอร์ค ตาม เอกสาร ดังกล่าวทั้ง โดย เหตุผล แล้ว ก็ ไม่ มี เหตุ อันใด ที่ โจทก์ จะ ออก โฆษณา โดยที่ ไม่ ได้ รับ อนุมัติ จาก จำเลย ก่อน จึง น่าเชื่อ ว่า การ โฆษณาตาม เอกสาร หมาย จ.10 ถึง จ.14 ได้ รับ อนุมัติ จาก จำเลย แล้ว ที่จำเลย อ้าง ว่า นาย ถิระพร ไม่ มี อำนาจ อนุมัติ การ โฆษณา รายนี้เพราะ มี ค่าจ้าง สูง นาย ถิระพร มี อำนาจ อนุมัติ การ โฆษณา ที่ มีค่าจ้าง ไม่เกิน 5,000 บาท นั้น เห็น ว่า แม้ จะ ฟัง ว่า เป็น ความจริงก็ เป็น ระเบียบ ภายใน ของ จำเลย โจทก์ ซึ่ง เป็น บุคคล ภายนอก ย่อมไม่ อาจ ทราบ ได้ เมื่อ นาย ถิระพร ผู้จัดการ แผนก การตลาด และ โฆษณาของ จำเลย อนุมัติ ให้ ออก โฆษณา ได้ ย่อม มี ผล ผูกพัน จำเลย ถือ ได้ว่า จำเลย ได้ อนุมัติ แล้ว และ ที่ จำเลย ว่า นาย ถิระพร ถูก จำเลยให้ ออก จาก งาน เนื่องจาก ไม่ มี ความ สามารถ จึง มี ใจ เอนเอียงใส่ร้าย จำเลย ก็ เห็น ว่า ตาม คำสั่ง จำเลย ที่ ให้ นาย ถิระพร ออกจาก งาน นั้น ไม่ ปรากฏ ระบุ ว่า นาย ถิระพร มี ความผิด อย่างใด คงเป็น การ เลิก จ้าง ตาม ธรรมดา ซึ่ง ไม่ น่า จะ เป็น เหตุ ถึง กับ ให้นาย ถิระพร เบิกความ ใส่ร้าย จำเลย สำหรับ หลักฐาน การ อนุมัติ ที่จำเลย อ้าง ว่า โจทก์ ไม่ มี มา แสดง ต่อ ศาล นั้น ปรากฏ ข้อเท็จจริงตาม ที่ โจทก์ นำสืบ ว่า ใน การ แจ้ง ให้ จำเลย ชำระ หนี้ ค่า โฆษณานั้น โจทก์ จะ ต้อง ส่ง หลักฐาน การ อนุมัติ ไป ให้ จำเลย ด้วย ดังนั้นโจทก์ จึง ไม่ มี หลักฐาน ดังกล่าว มา แสดง ต่อ ศาล ทั้งนี้ ก็ น่า จะเป็น เพราะ โจทก์ ได้ ส่ง ไป ให้ จำเลย แล้ว ดัง โจทก์ อ้าง ที่ โจทก์ไม่ มี หลักฐาน การ อนุมัติ ของ จำเลย มา แสดง ต่อ ศาล จึง ไม่ ทำ ให้น้ำหนัก พยาน โจทก์ เสีย ไป แต่ อย่างใด นอกจาก นี้ ข้อเท็จจริง ยังปรากฏ ตาม ใบแสดง รายการ ค่าใช้จ่าย ใน การ โฆษณา ตาม เอกสาร หมาย จ.3ซึ่ง จำเลย ปฏิเสธ การ จ่าย เงิน ว่า โจทก์ ได้ จัด ให้ มี การ โฆษณาสินค้า ของ จำเลย ใน หนังสือพิมพ์ และ นิตยสาร ต่างๆ รวม 12 รายการจำเลย อ้าง ว่า โจทก์ ลง ภาพ ผิด ความประสงค์ ของ จำเลย เพียง 5 รายการคือ ตาม เอกสาร หมาย จ.10 ถึง จ.14 นอกนั้น ถูกต้อง และ ได้ รับ อนุมัติจาก จำเลย แล้ว แต่ จำเลย ก็ ปฏิเสธ การ จ่าย เงิน ทั้งหมด แสดง ให้เห็น ว่า ที่ จำเลย กล่าวอ้าง ดังกล่าว นั้น น่า จะ เป็น การ กล่าวอ้างเพื่อ หา เหตุ ไม่ ชำระ หนี้ เท่านั้น พยาน โจทก์ ที่ นำสืบ มา มีน้ำหนัก ดีกว่า พยาน จำเลย ข้อเท็จจริง ฟัง ได้ ว่า การ โฆษณา ตามเอกสาร หมาย จ.10 ถึง จ.14 หรือ ล.17 ได้ รับ อนุมัติ จาก จำเลย ให้ออก โฆษณา แล้ว จำเลย ต้อง รับผิด ชำระหนี้ ค่าใช้จ่าย ใน การ โฆษณา ตามเอกสาร หมาย จ.3 โดย ไม่ จำเป็น ต้อง วินิจฉัย ว่า เป็น การ โฆษณา ผิดความ ประสงค์ ของ จำเลย หรือไม่ ประเด็น สุดท้าย ที่ จะ ต้อง วินิจฉัยมี ว่า ฟ้อง โจทก์ ขาด อายุความ หรือไม่ จำเลย ฎีกา อ้าง ว่า ตามใบแจ้งหนี้ เอกสาร หมาย จ.3 สิทธิ ของ โจทก์ ที่ จะ เรียกร้อง เกิดขึ้นนับแต่ วัน ส่งบิล แล้ว อายุความ จึง ต้อง เริ่ม นับ แต่ นั้น ไม่ ใช่นับ เมื่อ ครบ กำหนด 45 วัน ตาม ที่ โจทก์ ประทับ ตรายาง ใน เอกสารดังกล่าว ไว้ ฝ่ายเดียว โดย ไม่ เคย มี การ ตกลง กับ จำเลย มา ก่อน นั้น ข้อเท็จจริง ปรากฏ ว่า ใบแสดงรายการ ค่าใช้จ่าย ใน การ โฆษณา หรือใบแจ้งหนี้ ตาม เอกสาร หมาย จ.3 ลง วันที่ 31 มกราคม 2523 มี ข้อความระบุ ให้ ชำระหนี้ ภายใน 45 วัน คือ ภายใน วันที่ 16 มีนาคม 2523 ซึ่งถือ ได้ ว่า โจทก์ ให้ เวลา จำเลย ใน การ ชำระหนี้ 45 วัน ก่อน ครบ ระยะเวลา ดังกล่าว โจทก์ ย่อม จะ ใช้ สิทธิ ฟ้อง เรียกร้อง หนี้ รายนี้ จากจำเลย ยัง ไม่ ได้ อายุความ จึง ต้อง เริ่ม นับ แต่ วัน ถัด จาก วัน ครบกำหนด 45 วัน เป็นต้น ไป ตาม ที่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา169 บัญญัติ ไว้ โจทก์ ฟ้อง คดี นี้ ใน วันที่ 16 มีนาคม 2525 จึง ยังไม่ ขาด อายุความ ที่ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ให้ จำเลย ชำระหนี้ แก่ โจทก์ศาลฎีกา เห็นพ้อง ด้วย ฎีกา จำเลย ฟัง ไม่ ขึ้น’
พิพากษา ยืน ให้ จำเลย ใช้ ค่าทนายความ 1,500 บาท แทน โจทก์

Share