แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยสมคบกันกระทำการชิงทรัพย์ โดยจำเลยใช้มีดฟันและเตะทำร้ายร่างกายผู้เสียหายถูก
ตามร่างกายหลายแห่งเป็นบาดแผลปรากฎตามใบชัณสูตรทั้งนี้เพื่อให้เป็นความสดวกที่จะลักทรัพย์แล้วจำเลยได้ชิงทรัพย์ผู้เสียหาย-ไปหลายอย่าง ฯลฯ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 300,254,63 ดังนี้ แม้ข้อเท็จจริงใน
ทางพิจารณาจะฟังได้เพียงว่าจำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บเท่านั้น ไม่ได้เอาทรัพย์ด้วย ศาลก็ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254 ได้./
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีมีดเป็นศาสตราวุธ บังอาจสมคบกันกระทำการชิงทรัพย์โดยจำเลยใช้มีดฟันและเตะทำร้ายร่าง
กายนายจันทร์ มัจฉาสักดิ์ ถูกตามร่างกายหลายแห่งเป็นบาดแผล ปรากฎตามใบชัณสูตร ทั้งนี้เพื่อให้เป็นความสดวกที่
จะลักทรัพย์แล้วจำเลยได้ชิงทรัพย์ของนายจันทร์ไปหลายอย่าง รวมราคา ๔๕๐ บ. ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๐๐, ๒๕๔, ๖๓
จำเลยปฎิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยชิงทรัพย์จริงพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๐๐ วรรคแรกจำคุกจำเลยคนละ ๖ ปี
จำเลยทั้ง ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเพียงแต่ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายอย่างเดียว จึงปรากฎฐานชิงทรัพย์ไม่ได้ และจะลงโทษฐาน
ทำร้ายร่างกายก็ไม่ได้ จึงพิพากษาากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา แต่ส่งสำเนาให้นายดำจำเลยไม่ได้ จึงจำหน่ายคดีเฉพาะนายดำ
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยเพียงแต่ทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น แต่เห็นว่าตามฟ้องของโจทก์ ก็ได้บรรยายถึงการที่
จำเลยสมคบกันกระทำร้ายมีบาดแผลตามใบชัณสูตร กับได้อ้างบทมาตรา ๒๕๔ เป็นบทลงโทษมาด้วย ศาลย่อมลงโทษ
่จำเลยฐาฯนทำร้ายร่างกายบาดเจ็บได้
จึงพิพากษาแก้ว่า นายเปิ่นจำเลย ผิดตามมาตรา ๒๕๔ จำคุก ๑ ปี นอกจากที่แก้นี้ คงยืน.