คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2502/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 รับจ้างจำเลยที่ 2 และบุคคลอื่นล้างและฝ้ารถ ซึ่งจอดอยู่ริมถนนที่จำเลยที่ 1 ปฏิบัติงานเฝ้ายามอยู่แล้ว ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ต้องทำตามคำสั่งหรืออยู่ในความควบคุมของจำเลยที่ 2 การจ้างเช่นนี้เป็นการจ้างทำของเพราะผู้ว่าจ้างต้องการแต่ผลสำเร็จของงานคืนความสะอาดและความคงอยู่ของรถ ไม่ใช่จ้างแรงงาน จำเลยที่ 1 จึงไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในการที่จำเลยที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๒ มีหน้าที่ล้างและขับรถยนต์ เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๒๐ จำเลยที่ ๑ ขับรถยนต์ของจำเลยที่ ๒ ในทางการที่จ้างด้วยความประมาทชนรถก๋วยเตี๋ยวของโจทก์ และชนโจทก์ จึงขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ให้การว่ามิได้ประมาท แต่นายไพรันผู้ขับรถสวนทางกับรถจำเลยเป็นผู้ประมาท โจทก์ได้รับชดใช้ค่าเสียหายจากนายไพรันแล้ว ขอให้ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ ๒ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ มิได้เป็นลูกจ้างขับรถยนต์ของตน ตนไม่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ ๑ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ มิได้เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ รับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์แต่ผู้เดียว ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๒ พิพากษาแก้ให้ จำเลยที่ ๒ ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์นำสืบไม่ได้ว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๒ หัวหน้าที่ขับรถยนต์ ข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่า จำเลยที่ ๑ รับจ้างจำเลยที่ ๒ ล้างและเฝ้ารถซึ่งจอดอยู่ริมถนนจึงเจริญพาณิชย์อันเป็นที่ซึ่งจำเลยที่ ๑ ปฏิบัติงานเฝ้ายามอยู่แล้วและการรับจ้างดังกล่าวนั้นได้รับจ้างบุคคลอื่นๆ ด้วย ในการปฏิบัติงานที่รับจ้างนั้น ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ ๑ ต้องทำตามคำสั่งหรืออยู่ในความควบคุมของจำเลยที่ ๒ ข้อเท็จจริงได้ความแต่เพียงว่า เมื่อจำเลยที่ ๒ มอบรถยนต์ให้จำเลยที่ ๑ แล้ว จำเลยที่ ๑ ก็ปฏิบัติงานตามที่รับจ้างไปโดยจำเลยที่ ๒ มิได้มาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด การจ้างเช่นนี้เห็นว่าเป็นการจ้างทำของ เพราะผู้ว่าจ้างต้องการแต่ผลสำเร็จของงานคือความสะอาดและความคงอยู่ของรถ มิใช่เป็นการจ้างแรงงาน จำเลยที่ ๑ จึงมิใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ ในการที่จำเลยที่ ๑ กระทำละเมิดต่อโจทก์ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาข้ออื่นอีกต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ ๒ ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒

Share