แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตกลงเช่าสวนกัน โดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แม้ผู้เช่าจะได้ชำระค่าเช่าล่วงหน้าไปแล้ว และถูกผู้ให้เช่าบอกเลิกการเช่าเสียก่อนครบกำหนดก็ตาม ผู้เช่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ให้เช่าไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 538 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำสัญญาเช่าสวนของโจทก์มีกำหนด 3 ปี สัญญาสิ้นสุดลงแล้ว จำเลยขอเช่าจากโจทก์คราวละ 1 ปี โดยไม่มีหนังสือสัญญาเช่าต่อกัน ครั้งหลังสัญญาเช่าสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2490 ก่อนครบกำหนดการเช่า โจทก์ได้บอกเลิกการเช่าจำเลยยังเก็บผลไม้ในสวนของโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย จึงขอให้ห้ามและเรียกค่าเสียหาย จำเลยให้การรับว่าได้ตกลงเช่ากับโจทก์ตามฟ้องจริง แต่ก่อนครบกำหนดการเช่าครั้งหลัง วันที่ 21 มกราคม 2490โจทก์ได้เก็บเงินค่าเช่าล่วงหน้าสำหรับปี 2490 ไปจากจำเลย 200 บาท และฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในการที่ไม่ได้เก็บผลไม้ตลอดปี และเรียกค่าเช่าล่วงหน้า 200 บาทคืน ก่อนสืบพยานโจทก์แถลงไม่ติดใจเอาค่าเสียหาย และจำเลยไม่ติดใจเอาค่าเช่าคืน ศาลชั้นต้นจึงสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ได้บอกเลิกการเช่าแล้ว จำเลยก็เข้าเก็บผลไม้โดยละเมิด พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากโจทก์แม้จำเลยจะได้ให้เงินล่วงหน้า 200 บาทไว้ก็ดีเพราะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538
ส่วนข้อที่ว่าจำเลยได้ให้เงินล่วงหน้า 200 บาท ถ้าเป็นจริงก็อาจทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย แต่ศาลชั้นต้นมิได้สืบพยานในประเด็นข้อนี้ไว้ ครั้นจะให้สืบ ณ บัดนี้ แม้จะได้ความสมจริง ดังจำเลยอ้าง ก็ล่วงเลยเวลาที่จำเลยเข้าอยู่ในสวนพิพาทแล้วไม่มีผลแก่จำเลย
พิพากษายืน