คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2489/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยรวม 2 กระทง โดยเรียงกระทงลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี และปรับกระทงละ 10,000 บาท รอการลงโทษไว้กระทงละ 2 ปี และให้คุมความประพฤติจำเลยมีกำหนด 1 ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวทุก 3 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าไม่รอการลงโทษ ไม่ปรับ และไม่คุมความประพฤติจำเลย ดังนี้ เท่ากับศาลอุทธรณ์ยังคงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินกระทงละ 1 ปีหรือปรับไม่เกินกระทงละ 10,000 บาท ที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ และคุมความประพฤติจำเลย ซึ่งเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์ อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 26, 75, 76, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และริบกัญชาของกลางกับคืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26, 76, 102 ฐานมีกัญชาไว้เพื่อจำหน่ายให้ลงโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท และสำหรับความผิดฐานจำหน่ายกัญชา ให้จำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท รวมเป็นโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงให้จำคุกไว้ 2 ปี ปรับ 20,000 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี และให้คุมความประพฤติจำเลยมีกำหนด 1 ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวทุก 3 เดือน ส่วนค่าปรับหากไม่ชำระให้กักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 ให้ริบกัญชาของกลางและคืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้กำหนดโทษให้หนักขึ้น และไม่รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษไม่ปรับและไม่กำหนดเงื่อนไขคุมประพฤติ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยในข้อหามีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและข้อหาจำหน่ายกัญชาโดยมิได้รับอนุญาต โดยเรียงกระทงลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี และปรับกระทงละ 10,000 บาท แต่ให้รอการลงโทษไว้กระทงละ 2 ปี และให้คุมความประพฤติจำเลยมีกำหนด 1 ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวทุก3 เดือน การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าไม่รอการลงโทษไม่ปรับ และไม่คุมความประพฤติจำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเท่ากับศาลอุทธรณ์ยังคงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินกระทงละ 1 ปี หรือปรับไม่เกินกระทงละ 10,000บาท เมื่อจำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษและคุมความประพฤติจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ซึ่งเป็นการโต้แย้งดุลพินิจการกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย.

Share