คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2487/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 เมาสุราใช้มีดปลายแหลมยาวทั้งตัวทั้งด้ามประมาณ 1 คืบ แทงเปะปะไปโดยมิได้เลือกว่าเป็นที่ใด และแทงผู้ตายไปทีเดียว จะฟังว่ามีเจตนาฆ่ายังไม่ถนัด การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๘๓
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๓ จำคุกคนละ ๒๐ ปี และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๘๓ จำคุกคนละ ๑๒ ปี จำเลยที่ ๓ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๑ จำคุก ๑ เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ ๑ ไว้ ๓๒ ปี จำคุกจำเลยที่ ๓ ไว้ ๓๒ ปี ๑ เดือน ส่วนจำเลยที่ ๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๑, ๘๐ ตามมาตรา ๑๐๕ ไม่ต้องรับโทษ ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยกคืนของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ จำคุก ๑ ปี ฐานทำให้คนตายโดยไม่เจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๐ จำคุก ๗ ปี รวมจำคุกจำเลยที่ ๑ ไว้ ๘ ปี ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๓
โจทก์และจำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยที่ ๑ ได้ใช้มีดแทงทำร้ายนายสินธพและผู้ตายจริง คงมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปว่า การกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าหรือไม่ ได้ความว่ามีดที่จำเลยที่ ๑ ใช้แทงนายสินธพนั้นเป็นมีดปลายแหลมยาวทั้งตัวทั้งด้ามประมาณ ๑ คืบ ขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ ๑ น่าจะอยู่ในลักษณะเมาสุรา ปรากฏตามที่จำเลยที่ ๑ ให้การไว้ในชั้นสอบสวนเอกสารหมาย จ.๓ จึงได้แทงเปะปะไปโดยมิได้เลือกว่าเป็นที่ใดและแทงผู้ตายไปทีเดียว จะฟังว่ามีเจตนาฆ่ายังไม่ถนัด ที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า การกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายและฆ่าคนตายโดยไม่เจตนานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์และจำเลยที่ ๑ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share