คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2485/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นคนต่างด้าวสัญชาติญวน แต่ไปแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานว่าจำเลยชื่อนางตัน ศิริดำรง เป็นคนไทยเพื่อขอรับบัตรประจำตัวประชาชน เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานดังกล่าวหลงเชื่อว่าจำเลยเป็นบุคคลสัญชาติไทย จึงได้บันทึกเสนอนายทะเบียน ออกบัตรประจำตัวประชาชนอันเป็นเอกสารราชการให้แก่จำเลย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 และพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2505 มาตรา 17

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นคนต่างด้าวสัญชาติญวน แต่ไปแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานว่าจำเลยเป็นคนไทย เพื่อขอรับบัตรประจำตัวประชาชน เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานหลงเชื่อว่าจำเลยเป็นบุคคลสัญชาติไทย จึงได้บันทึกเสนอนายทะเบียนออกบัตรประจำตัวประชาชน อันเป็นเอกสารราชการให้แก่จำเลย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗ พระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๑๗
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗ พระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๑๗ ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗ ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามมาตรา ๙๐ จำคุก ๓ เดือน ปรับ ๑,๐๐๐ บาท แต่ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด ๒ ปี ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามาตรา ๒๙,๓๐ ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าปัญหาต่อไปมีว่าจำเลยจะมีความผิดตามฟ้องหรือไม่ โจทก์นำสืบว่า ตามระเบียบการขอบัตรประจำตัวประชาชน ผู้ขอจะต้องยื่นคำร้องตามแบบ บ.ป. ๑ เมื่อทางราชการได้รับคำขอแล้วเจ้าหน้าที่จะตรวจหลักฐานตามสำเนาทะเบียนบ้านว่าผู้ขอมีสัญชาติไทยหรือไม่ แล้วจะออกใบแทนบัตรประจำตัวประชาชน (บัตรเหลือง) ให้ตามแบบ บ.ป. ๒ ซึ่งจำเลยก็นำสืบว่าได้ให้นางสาวพยุง โตวัน บุตรจำเลยพาไปขอทำบัตรประจำตัวที่อำเภอเมืองอุดรธานีเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๖ จริง และจำเลยได้รับบัตรประจำตัวประชาชนที่ทางการออกให้ตามเอกสารหมาย จ. ๕ แล้ว ดังนี้จึงเชื่อว่าจำเลยได้ยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวดังกล่าวตามแบบ บ.ป. ๑ จริง มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่คงไม่ออกใบรับตามแบบ บ.ป. ๒ และออกบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่จำเลย การที่จำเลยเป็นคนต่างด้าวสัญชาติญวน แต่ไปแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหนักงานว่าจำเลยชื่อนางตัน ศิริดำรง เป็นคนไทย เพื่อขอรับบัตรประจำตัวประชาชน เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานดังกล่าวหลงเชื่อว่าจำเลยเป็นบุคคลสัญชาติไทย จึงได้บันทึกเสนอนายทะเบียน สำนักงานทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชน กระทรวงมหาดไทย ออกบัตรประจำตัวประชาชนอันเป็นเอกสารราชการให้แก่จำเลย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามฟ้อง
พิพากษายืน.

Share