แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ล.ยิงผู้ตาย 1 ยีดแล้ว จำเลยร้องบอกให้ ล.ยิงผู้ตายซ้ำ แต่ล.ไม่ได้ยิงซ้ำ หากแต่มีคนอื่นยิงผู้ตายอีก ตามคำฟ้องโจทก์บรรยายชัดว่า จำเลยใช้ให้ ล.ใช้ปืนยิงผู้ตายไม่ได้กล่าวเลยว่าจำเลยใช้บุคคลอื่นนอกจาก ล. ฉะนั้น การที่คนอื่นซึ่งมิใช่ ล.เป็นคนยิงซ้ำจะถือว่าจำเลยใช้ให้คนอื่นกระทำความผิดด้วยและผู้ถูกใช้ได้กระทำความผิดแล้วหาได้ไม่ จำเลยคงมีความผิดฐานใช้ให้ ล.กระทำความผิด แต่ ล.ไม่ได้กระทำลงตามที่จำเลยใช้ซึ่งมีโทษเพียงหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 วรรคสอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ให้นายเลิศกระทำความผิด โดยบอกให้นายเลิศใช้อาวุธปืนยิงนายสำราญให้ถึงแก่ความตาย แล้วจำเลยกับนายเลิศได้ร่วมกันยิงนายสำราญถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๔, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๔ จำคุก ๑๕ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๔ วรรคสอง จำคุก ๕ ปี
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริง เชื่อว่านายเลิศยิงผู้ตาย ๑ นัดแล้ว จำเลยใช้ให้นายเลิศยิงผู้ตาย โดยร้องบอกให้ยิงซ้ำ แต่นายเลิศไม่ได้ยิงซ้ำ มิใช่จำเลยเจาะจลให้นายเลิศยิงแต่ผู้เดียว แต่เป็นการบอกให้ใครคนใดคนหนึ่งในบรรดาญาติพี่น้องของจำเลยในที่กิดเหตุยิงผู้ตายซ้ำ และการที่มีผู้ปืนยิงผู้ตายซ้ำอีก ๒ นัดหลังจากที่จำเลยร้องบอกพอฟังได้ว่าพี่น้องของจำเลยคนใดคนหนึ่งยิงผู้ตายซ้ำตามที่จำเลยบอก ถือว่าจำเลยใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด และผู้ถูกใช้ได้กระทำความผิดแล้วนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำฟ้องโจทก์บรรยายฟ้องชัดว่า จำเลยใช้นายเลิศกระทำความผิดโดยบอกให้นายเลิศใช้ปืนยิงผู้ตายตามคำฟ้องไม่ได้กล่าวเลยว่าจำเลยใช้บุคคลอื่นให้กระทำความผิดนอกเหนือจากใช้นายเลิศ ฉะนั้น การที่คนอื่นซึ่งไม่ใช่นายเลิศเป็นคนยิงผู้ตายซ้ำ จะถือว่าจำเลยใช้ให้คนอื่นกระทำความผิดด้วย และผู้ถูกใช้ได้กระทำความผิดแล้วหาได้ไม่ เพราะโจทก์ไม่ได้บรรยายมาในฟ้องและเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์ไม่ประสงค์จะให้ลงโทษ จำเลยคงมีความผิดฐานใช้ให้นายเลิศกระทำความผิด แต่นายเลิศไม่ได้กระทำตามที่จำเลยใช้ ซึ่งมีโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมาย มาตรา ๘๔ วรรคสอง
พิพากษายืน.