คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขุดคลอง ทำประตูน้ำเก็บเงินแก่เรือที่ผ่านไปมา ย่อมเป็นการขุกคลองเพื่อกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค เมื่อไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล ก็ย่อมเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุขแห่งสาธารณชน พ.ศ. 2471 มาตรา4,5,8 และฉบับที่ 2 พ.ศ. 24++ มาตรา 3 และเมื่อการกระทำดังกล่าวนี้เป็นเหตุให้น้ำในทางชลประทานรั่วไหลออก โดยมิได้รับอนุญาต-เป็นหนังสือจากเจ้าพนักงาน ก็ย่อมเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ชลประทานหลวง พ.ศ. 2485 มาตรา 26 อีกบทหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทั้ง ๓ ได้สมคบกันกับพวกอีกหลายคน บังอาจกระทำการขุดคลอง ซึ่งเป็นกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภคตามกฎหมาย โดยมิได้รับอนุญตจากรัฐบาลหรือสัมปทานแต่อย่างใด และคลองที่จำเลยกับพวกขุดนี้ เป็นการขุดแยกจากคันคลองภาษีเจริญ อ้อมส่วนหนึ่งของประตูน้ำกระทุมแบนของรัฐบบาลไปทะลุรำลางเล็ก ๆ ซึ่งออกไปบรรจบคลองภาษีเจริญอีกตอนหนึ่ง จำเลยได้ใช้คอลงที่ขุดนี้เป็นทางให้เรือของประชาชนเข้าออกด้วยวิธีเก็บเงินเป็นค่าผ่านทางตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๔๙๐ ตลอดมาจนถึงวันฟ้อง ทำให้น้ำเค็มในแม่น้ำท่าจีนรั่วไหลเข้าคลองภาษีเจริญ ทำให้คลองภาษีเจริญเสียหาย ทั้งทำให้น้ำในทางน้ำชลประทานรั่วไหลออก อันกระทบถึงความปลอดภัยและผาสุขแห่งสาธารณชน จึงขอให้ลงโทษจำเลยตามพ.ร.บ.ควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุขแห่งสาธารณชน (ฉะบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๘มาตรา ๓, พ.ร.บ.ชลประทานหลวง พ.ศ. ๒๔๘๘ มาตรา ๒+
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑, ๓ ผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบกระเทือนถึงความปลอดภัยหรือผาสุขแห่งสาธารณชน ๒๔๗๑ มาตรา ๔, ๕, ๘ และ(ฉะบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๕ มาตรา ๓ สำหรับจำเลยที่ ๒ ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๑, จำเลยที่ ๓ ด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยที่ ๑, จำเลยที่ ๓ สมคบกันจัดการขุดคลองรายนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล และทำประตูน้ำเก็บเงินแก่เรือที่ผ่านไปมา จึงเป็นการขุดคลองเพื่อให้กิจการขุคลองเพื่อกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุขแห่งสาธารณชน พ.ศ. ๒๔๗๑ มาตรา ๔, ๕, ๘ และ พ.ร.บ.(ฉะบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๕ มาตรา ๓ และการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้น้ำในทางชลประทานรั่วไหล โดยมิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงาน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ชลประทานหลวง พ.ศ. ๒๔๘๕มาตรา ๒๖ อีกบทหนึ่ง
จึงพิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ ๑, ๓ มีความผิดตามบทกฎหมายที่กล่าวแล้ว ฯลฯ ส่วนคำขอที่ให้บังคับจำเลยถมดินให้ดีคงสภาพเดิมนั้น เป็นลักษณะคำขอในทางแพ่งจะต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียม จึงรับวินิจฉัยให้ไม่ได้

Share