แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาจะขายที่ดินให้แก่เขาแล้ว กลับเอาไปขายแก่คนอื่น โดยสมยอมกันเพื่อจะไม่ขายที่ดินให้ผู้ซื้อคนแรก ดังนี้
ผู้ซื้อคนแรกมีสิทธิฟ้องผู้ขายและผู้ซื้อรายหลังขอให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายรายหลังเสีย และขอให้ผู้ขายโอนที่ดินให้แก่ตนได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ทำสัญญาจะขายที่ดินเนื้อที่ ๒๕ ไร่ ให้โจทก์เป็นราคา ๒๐๐๐ บาท โจทก์รับซื้อ ชำระเงินแล้ว ๑๒๐๐ อีก ๘๐๐ บาทจะชำระในวันโอนทะเบียน และจำเลยที่ ๑ ได้มอบที่ดินให้โจทก์ครอบครองตลอดมา บัดนี้ปรากฎว่า จำเลยที่ ๑ สมยอมกับจำเลยที่ ๒ กระทำเป็นพิธีว่า ซื้อขายที่ดินรายนี้และแก้ทะเบียน ณ หอทะเบียนที่ดิน จึงขอให้เพิกถอนและโอนที่ดินให้โจทก์
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่า พฤติการณ์ซื้อขายระหว่างจำเลยที่ ๑ – ๒ ไม่น่าเชื่อว่า เป็นการซื้อขายกันโดยสุจริต จึงพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายระหว่างจำเลยที่ ๑ – ๒ เสีย และให้จำเลยที่ ๑ รับเงิน ๘๐๐ บาท จากโจทก์ โดยให้จำเลยที่ ๑ โอนขายที่รายนี้แก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงอย่างศาลล่าง เห็นว่ารูปคดีฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองสมยอมกัน เพื่อจะไม่ขายที่นาพิพาทให้โจทก์ จึงพิพากษายืน