แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย่อยาว
คดีนี้โจทย์ยื่นฟ้องขอให้จำเลยเปนคนล้มละลาย ศาลแพ่งทำคำสั่งให้จำเลยเปนคนล้มละลาย เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พุทธศก ๒๔๖๑ โดยจำเลยรับว่าเปนณี่เงินโจทย์จริง ฯ
คำสั่งนี้ไม่ได้มีอุทธรณ์ ฯ
ตามคำสั่งนี้เจ้าพนักงานรักษาทรัพย์จึงยึดทรัพย์สมบัติของจำเลย และโดยเข้าใจว่าคำสั่งนี้กินความรวมถึงญี่ห้อฮกซุ่นหลีด้วย จึงจัดการยึดทรัพย์ในญี่ห้อฮกซุ่นหลีไว้เหมือนกัน ฯ
ครั้งเมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๒ เจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ยื่นคำร้องฉบัพ ๑ ขอให้ศาลแพ่งสั่งให้ญี่ห้อฮั่วเซ่งเชียงล้มละลายด้วย โดยกล่าวว่าเจ้าของญี่ห้อฮั่วเซ่งเชียงเปนผู้ถือหุ้นอยู่ในญี่ห้อฮกซุ่นหลี เพราะฉนั้นจึงต้องเปนค้นล้มละลายด้วยตามพระราชบัญญัติลักษณล้มละลายมาตรา ๓๕ ศาลแพ่งตั้งเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ชั่วคราว และนัดคู่ความมาศาลพร้อมกัน ฯ
ผู้ถือหุ้นในญี่ห้อฮั่วเซ่งเชียง คือ นายเล่าเซียงบุ๋น นายโค ไต้กืน นายเตียวซือชิ้นฤาหยงฮกกับนายเล่าเจงลือ ให้การรับว่าเปนเจ้าของญี่ห้อฮั่วเซ่งเชียง และเปนผู้ถือหุ้นอยู่ในญี่ห้อฮกซุ่นหลีจริง แต่แก้ว่า
(๑) นายเจงอิวเหงฟ้องนายเล่าซวงลือเฉภาะเรื่องญี่สินส่วนตัวนายเล่าซวงสือผู้เดียว ญี่ห้อฮกชุ่นหลีไม่ได้เปนคู่ความในคดีนั้นตามกฎหมาย ฯ
(๒) นายเล่าซวงสือไม่ใช่เจ้าของ และไม่ใช่ผู้ถือหุ้นในญี่ห้อฮกซุ่นหลี ฯ
(๓) ญี่ห้อฮกซุ่นหลีไม่ได้เปนณี่เงินโจทย์เลย ฯ
(๔) เพราะฉนั้นจะให้ญี่ห้อฮั่วเซ่งเชียงล้มละลาย ตามพระราชบัญญัติลักษณล้มละลายมาตรา ๓๕ ไม่ได้ ฯ
ศาลแพ่งฟังตามข้อโต้แย้งของเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์และชี้ขาดว่าญี่ห้อฮั่วเซ่งเชียง กับผู้ถือหุ้นทั้ง ๔ คนในญี่ห้อฮั่วเซ่งเชียงเปนคนล้มละลายตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติลักษณล้มละลาย ร.ศ.๑๓๐ ฯ
ศาลอุทธรณ์ กรุงเทพ ฯ พิพากษากลับสัตย์ศาลแพ่งฟังว่าในคดีเดิมโจทย์ไม่ได้ฟ้องญี่ห้อฮกซุ่นหลีเปนจำเลย คำสั่งในคดีนั้นเปนคำสั่งให้นายเล่าซวงสือล้มละลายเปนส่วนตัวแต่ผู้เดียว เพราะฉนั้นจะบังคับคดีด้วยมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติลักษณล้มละลายไม่ได้ ฯ
ตามพระราชบัญญัติลักษณล้มละลายมาตรา ๘๐ เจ้าพนักงานรักษาทรัพย์มีน่าที่ต้องจัดการไปตามคำสั่งของศาลอุทธรณ์ โดยไม่ต้องรอฎีกา เพระาฉนั้นการยึดทรัพย์ในคดีนี้จึงเปนอันให้ถอนไป ฯ
เจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา และในระหว่างฎีกาเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ยึดทรัพย์ไว้อีก โดยตั้งผู้ยื่นคำร้องเปนเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ชั่วคราว ตามพระราชบัญญัติลักษณล้มละลายมาตรา ๑๑ ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวน และฟังคำแถลงการณ์ทั้ง ๒ ฝ่ายตลอดแล้ว คดีชั้นคำร้องที่กล่าวนั้นก็ย่อมเปนไปตามเนื้อเรื่องในรูปคดี กรรมการศาลฎีกาจึงได้วินิจฉัยความทั้ง ๒ ข้อ รวมกัน ฯ
ปรากฎตามคดีล้มละลายเรื่องเดิมว่า ฟ้องนั้นจ่าน่าว่านายเจงอิวเหงโจทย์ นายเล่าซวงสือ เจ้าของญี่ห้อฮกซุ่นหลีจำเลย คือตามความเข้าใจในชั้นต้นว่ามีจำเลยแต่ผู้เดียว ซึ่งอธิบายบ่งไว้ว่าเปนเจ้าของญี่ห้อฮกซุ่นหลี ถ้าฟ้องนั้นมุ่งหมายถึงจำเลย ๒ คนก็ควรจะกล่าวไว้ให้ชัดเจน ไม่ควรปล่อยให้เคลือบคลุมเหมือนดังในคดีนี้ ฯ
ความเห็นของศาลอุทธรณ์ ที่ว่าเปนฟ้องส่วนตัวนายเล่าชวงสือผู้เดียว ไม่กินความถึงญี่ห้อฮกซุ่นหลีด้วยนั้น มีเหตุผลประกอบคือว่า ญี่ห้อฮกซุ่นหลีไม่ได้ยื่นคำให้การแก้คดี นายเล่าชวงสือแต่ผู้เดียวเปนผู้ให้การสู้คดี ในคำให้การนั้นนายเล่าชวงสือได้ลงนามของตนเอง โดยไม่มีชื่อ ญี่ห้อใด ๆ โจทย์ก็มิได้คัดค้านในข้อนี้ ฯ
เพราะฉนั้น เมื่อญี่ห้อฮกซุ่นหลีไม่ใช่คู่ความในคดีฟ้องล้มละลายเดิม ญี่ห้อฮั่วเซ่งเชียงซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกับนายเล่าชวงสือแต่อย่างใดเลย ก็เปนอันจะให้ล้มละลายตามาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติลักษณล้มละลายไม่ได้อยู่เอง ฯ
กรรมการศาลฎีกาจึงพร้อมกันพิพากษาให้ยกคำร้อง และฎีกาของเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์เสีย ให้เจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียม กับค่าทนายความอีก ๒๐๐ บาท ฯ