คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2470/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประเด็นตามฟ้องมีว่า โจทก์มีสิทธิห้ามจำเลยกระทำการเกินขอบเขตที่โจทก์อนุญาตให้จำเลยเดินผ่านทางเดินรายพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินของโจทก์หรือไม่ การที่จำเลยฟ้องแย้งให้ห้ามโจทก์เปิดประตูรั้วออกมาทางทางเดินรายพิพาท และแกล้งเปิดประตูรั้วกระทบจำเลยและครอบครัว กับห้ามโจทก์และบริวารปารั้วสังกะสีของโจทก์ทำให้จำเลยและบริวารตกใจ จึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม จำเลยจะต้องฟ้องเป็นอีกคดีหนึ่งต่างหาก

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นรับคำให้การจำเลย แต่ไม่รับฟ้องแย้ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยและบริวารนำรถจักรยานยนต์และรถเข็นของผ่านเข้าออกทางเดินรายพิพาท ซึ่งอยู่ในที่ดินของโจทก์ ให้จำเลยรื้อประตูและเสาประตูปิดกั้นปากทางเดินรายพิพาท ให้จำเลยรื้อทุบคอนกรีตทางเดินรายพิพาทและขนย้ายออกไปทิ้งให้เรียบร้อย ห้ามจำเลยนำสิ่งของมาวางเกะกะหรือใช้ประโยชน์บนทางเดินรายพิพาท เพื่อให้โจทก์และบริวารเดินผ่านทางเดินพิพาทได้โดยสะดวกดังนี้สภาพแห่งข้อหาของโจทก์เป็นเรื่องห้ามจำเลยกระทำการเกินขอบเขตที่โจทก์อนุญาตให้จำเลยเดินผ่านทางเดินรายพิพาท จำเลยให้การรับว่าจำเลยขออาศัยทางเดินรายพิพาทผ่านเข้าออกจากบ้านจำเลยไปสู่ทางสาธารณะจากโจทก์ แต่ต่อสู้ว่าจำเลยมีสิทธิกระทำตามที่โจทก์ฟ้องห้ามนั้นได้ ประเด็นตามฟ้องเดิมของโจทก์จึงมีว่าโจทก์มีสิทธิห้ามจำเลยกระทำตามฟ้องในทางเดินรายพิพาทหรือไม่ การที่จำเลยฟ้องแย้งให้ห้ามโจทก์เปิดประตูรั้วออกมาทางทางเดินรายพิพาทและแกล้งเปิดประตูรั้วกระทบจำเลยและครอบครัวกับห้ามโจทก์และบริวารปารั้วสังกะสีของโจทก์ทำให้จำเลยและบริวารตกใจ จึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม จำเลยจะต้องฟ้องเป็นอีกคดีหนึ่งต่างหาก ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม”

พิพากษายืน

Share