คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2541

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยเป็นผู้ค้ำประกัน อ. แม้จะยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ก็เป็นการยอมรับผิดร่วมกันกับลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 691มิได้ทำให้กลายเป็นลูกหนี้ร่วมเต็มตัวอย่างลูกหนี้ร่วมตามมาตรา 291 จำเลยคงเสียสิทธิเพียงไม่อาจยกข้อต่อสู้ตามมาตรา 688,689 และ 690 ขึ้นต่อสู้เท่านั้นนอกนั้นมิได้เสียสิทธิของผู้ค้ำประกันตามบทบัญญัติในลักษณะค้ำประกันแต่อย่างใด ดังนั้น จำเลยย่อมมีสิทธิตามมาตรา 694ที่ยังอาจยกข้อต่อสู้ทั้งหลายซึ่งลูกหนี้มีต่อเจ้าหนี้ขึ้นต่อสู้ได้ด้วย ซึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าวไม่มีข้อความตอนใดที่จะแสดงให้เห็นว่าข้อต่อสู้ที่ลูกหนี้มีต่อเจ้าหนี้ซึ่งค้ำประกันจะยกขึ้นได้ ต้องไม่เกี่ยวกับเรื่องอายุความมรดกทั้งคดีนี้ไม่ใช่คดีมรดกเป็นเรื่องโจทก์ฟ้องจำเลยให้รับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันจำเลยย่อมใช้สิทธิตามมาตรา 694 ได้จึงไม่เกี่ยวกับว่าจำเลยจะเป็นบุคคลตามที่ระบุไว้ในมาตรา 1755 หรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์มิได้ใช้สิทธิเรียกร้องต่อกองมรดกของ อ. ภายใน 1 ปีนับแต่ทราบว่า อ. ถึงแก่ความตาย สิทธิเรียกร้องของโจทก์ต่อกองมรดกของ อ. จึงขาดอายุความ ตามมาตรา 1754 วรรคสามจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระหนี้ตามฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายเอียง รุ่งสุวรรณ เช่าซื้อรถกระบะยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน ป – 8329 นครปฐม ไปจากโจทก์ราคา 212,800 บาท ตกลงชำระค่าเช่าซื้อเป็น 36 งวด งวดละ 6,000 บาทงวดสุดท้าย 2,800 บาท ทุกวันที่ 25 ของเดือนนับตั้งแต่เดือนมกราคม2534 เป็นต้นไป โดยมีจำเลยเป็นผู้ค้ำประกันยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม นายเอียงชำระค่าเช่าซื้อเพียง 18 งวด และผิดนัดตั้งแต่งวดที่ 19 เป็นต้นไป โจทก์ทวงถามนายเอียงแล้วแต่นายเอียงเพิกเฉย ต่อมาโจทก์ทราบว่านายเอียงถึงแก่กรรมทำให้โจทก์เสียหายขาดประโยชน์จากการใช้รถคันที่เช่าซื้อคิดเป็นเงินเดือนละ 3,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยในฐานะเป็นผู้ค้ำประกันส่งมอบรถคันที่เช่าซื้อคืนในสภาพเรียบร้อยใช้งานได้ดี หากไม่สามารถคืนได้ให้ใช้ราคาเป็นเงิน 100,000 บาทและให้ใช้ค่าขาดประโยชน์นับแต่วันผิดสัญญาจนถึงวันฟ้องเป็นเวลา55 เดือน คิดเป็นเงิน 135,000 บาท กับค่าขาดประโยชน์นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบรถคืนหรือใช้ราคาให้โจทก์จนแล้วเสร็จ
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ดำเนินการฟ้องร้องทายาทของนายเอียงให้รับผิดกลับฟ้องจำเลยเนื่องจากเห็นว่าจำเลยเป็นข้าราชการสามารถบีบบังคับให้จำเลยชำระหนี้ได้ จึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตโจทก์นำคดีมาฟ้องเกิดกว่า 2 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ และโจทก์ไม่ได้ฟ้องนายเอียงภายใน 1 ปี นับแต่นายเอียงถึงแก่กรรมคดีขาดอายุความ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงยุติโดยคู่ความมิได้โต้เถียงกันในชั้นนี้ว่า นายเอียง รุ่งสุวรรณ ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ตามสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย จ.3 โดยมีจำเลยเป็นผู้ค้ำประกันและยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ตามสัญญาค้ำประกันเอกสารหมาย จ.4 นายเอียงชำระค่าเช่าซื้อเพียง 18 งวดแล้วผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้ออีกเลย ต่อมานายเอียงถึงแก่กรรม โจทก์ทราบเมื่อปลายปี 2537 และโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2539เกิน 1 ปี นับแต่ทราบว่านายเอียงตาย มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า คดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสาม หรือไม่ จำเลยเป็นบุคคลตามที่ระบุไว้ในมาตรา 1755 อันจะยกอายุความตามมาตรา 1754 วรรคสามขึ้นต่อสู้ได้หรือไม่ คดีนี้เป็นคดีมรดกหรือไม่ และการฟ้องติดตามเอารถยนต์ที่เช่าซื้อคืนมีอายุความหรือไม่ เห็นว่า จำเลยเป็นผู้ค้ำประกันนายเอียง แม้จะยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมก็เป็นการยอมรับผิดร่วมกันกับลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 691 มิได้ทำให้กลายเป็นลูกหนี้ร่วมเต็มตัวอย่างลูกหนี้ร่วมตามมาตรา 291 จำเลยคงเสียสิทธิเพียงไม่อาจยกข้อต่อสู้ตามมาตรา 688, 689 และ 690 ขึ้นต่อสู้เท่านั้น นอกนั้นมิได้เสียสิทธิของผู้ค้ำประกันตามบทบัญญัติในลักษณะค้ำประกันแต่อย่างใด ดังนั้น จำเลยย่อมมีสิทธิตามมาตรา 694 ที่บัญญัติว่า”นอกจากข้อต่อสู้ซึ่งผู้ค้ำประกันมีต่อเจ้าหนี้นั้น ท่านว่าผู้ค้ำประกันยังอาจยกข้อต่อสู้ทั้งหลายซึ่งลูกหนี้มีต่อเจ้าหนี้ขึ้นต่อสู้ได้ด้วย” ซึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าวไม่มีข้อความตอนใดที่จะแสดงให้เห็นว่าข้อต่อสู้ที่ลูกหนี้มีต่อเจ้าหนี้ซึ่งผู้ค้ำประกันจะยกขึ้นได้ ต้องไม่เกี่ยวกับเรื่องอายุความมรดกทั้งคดีนี้ไม่ใช่คดีมรดกเป็นเรื่องโจทก์ฟ้องจำเลยให้รับผิดในฐานะผู้ค้ำประกัน จำเลยย่อมใช้สิทธิตามมาตรา 694 ได้ จึงไม่เกี่ยวกับว่าจำเลยจะเป็นบุคคลตามที่ระบุไว้ในมาตรา 1755 หรือไม่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์มิได้ใช้สิทธิเรียกร้องต่อกองมรดกของนายเอียงภายใน 1 ปี นับแต่ทราบว่านายเอียงถึงแก่ความตายสิทธิเรียกร้องของโจทก์ต่อกองมรดกของนายเอียงจึงขาดอายุความตามมาตรา 1754 วรรคสาม จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระหนี้ตามฟ้องส่วนการติดตามเอารถยนต์ที่โจทก์ให้นายเอียงเช่าซื้อคืนตามที่โจทก์ฎีกานั้น คำฟ้องโจทก์ก็ไม่ได้กล่าวอ้างว่าจำเลยครอบครองหรือยึดถือรถยนต์ที่โจทก์ให้นายเอียงเช่าซื้อไว้ ทั้งทางนำสืบก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองหรือยึดถือรถยนต์ที่โจทก์ให้นายเอียงเช่าซื้อจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดคืนรถยนต์ที่โจทก์ให้นายเอียงเช่าซื้อหรือใช้ราคาแต่อย่างใด ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share