คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ค่าเช่าอันเป็นดอกผลนิตินัยซึ่งโจทก์ในฐานะผู้รับจำนองพึงจะบังคับได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 721 นั้น ต้องเป็นค่าเช่าซึ่งเกิดจากการเช่าที่มีอยู่ก่อนและขณะผู้รับจำนองบอกกล่าวบังคับจำนอง มิใช่หมายความถึงค่าเช่าที่โจทก์คาดหมายว่าอาจให้เช่าได้จำนวนหนึ่งโดยไม่มีการเช่าอยู่จริง เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้มอบหมายให้ อ. มารดาจำเลยเป็นผู้ดูแลรักษาที่ดินพร้อมบ้านพิพาทที่โจทก์รับจำนองไว้ในระหว่างการขายทอดตลาด จึงไม่มีการเช่าและไม่มีค่าเช่าอันเป็นดอกผลนิตินัยที่โจทก์พึงจะบังคับจำนองได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างคือบ้านเลขที่ 1/51 จากนายไพฑูรย์ นวลมณี โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแล้วเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2523 จำเลยและบริวารเป็นผู้อาศัยและหรือใช้ประโยชน์ในที่ดินและบ้านดังกล่าวโดยไม่มีสิทธิ จึงต้องรับผิดต่อโจทก์เดือนละ6,000 บาทเท่าค่าเช่าที่อาจให้เช่าได้ นับแต่วันที่โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองถึงวันฟ้องเป็นเงิน 168,000 บาท ขอให้พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยและอีกเดือนละ 6,000 บาท นับแต่วันฟ้อง
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า โจทก์ไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนองจำเลยและบริวารไม่ได้อยู่อาศัยในบ้านพิพาทจำเลยหรือบริวารไม่เคยได้ดอกผลจากทรัพย์จำนอง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 112,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยกับให้ชำระเงินค่าดอกผลเดือนละ 4,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะมีการไถ่ถอนจำนอง หรือจนกว่าจำเลยจะออกไปจากทรัพย์ที่จำนอง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์ได้รับจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 147870 ตำบลคลองตัน อำเภอพระโขนงกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งบ้านเลขที่ 1/51 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าวไว้จากนายไพฑูรย์ นวลมณี ต่อมานางอุดมศรี ปิณฑานนท์มารดาจำเลยในฐานะผู้รับมอบอำนาจของนายจินตกวี ปิณฑานนท์น้องชายจำเลยได้ฟ้องนายไพฑูรย์ ศาลพิพากษาให้นายไพฑูรย์ชำระเงินแก่นายจินตกวี 2,000,000 บาทเศษ มารดาจำเลยนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดบ้านพิพาทเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ตั้งให้มารดาจำเลยเป็นผู้ดูแลรักษา ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.2 มีปัญหาในชั้นนี้ว่าโจทก์จะมีสิทธิเรียกเงินค่าเช่าบ้านพิพาทจากจำเลยได้หรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา111 (2) ดอกผลนิตินัยหมายถึง ดอกเบี้ย กำไร ค่าเช่า ฯ สำหรับค่าเช่าอันเป็นดอกผลนิตินัยซึ่งโจทก์ในฐานะผู้รับจำนองพึงจะบังคับจำนองได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา721 นั้น ต้องเป็นค่าเช่าซึ่งเกิดจากการเช่าที่มีอยู่ก่อนและขณะผู้รับจำนองบอกกล่าวบังคับจำนอง มิใช่หมายความถึงค่าเช่าที่โจทก์คาดหมายว่าอาจให้เช่าได้จำนวนหนึ่งโดยไม่มีการเช่าอยู่จริง ตามเอกสารหมาย ล.2 ฟังได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้มอบหมายให้นางอุดมศรี ปิณฑานนท์ มารดาจำเลยคดีนี้เป็นผู้ดูแลรักษาที่ดินพร้อมทั้งบ้านพิพาทหลังนี้ไว้ในระหว่างรอการขายทอดตลาด กรณีจึงไม่มีการเช่าเกิดขึ้นและไม่มีค่าเช่าอันเป็นดอกผลนิตินัยที่โจทก์พึงจะบังคับจำนองได้ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องและพิพากษายกฟ้องมานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.

Share