แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีหลังซึ่งยกฟ้องโจทก์โดยฟังข้อเท็จจริงว่า เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้แก่จำเลยและผู้อื่น ย่อมผูกพันโจทก์จำเลยในคดีหลังกล่าวคือโจทก์หมดสิทธิที่จะได้รับมรดกเฉพาะเกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่ว่ากล่าวกันในคดีหลังซึ่งเป็นทรัพย์คนละส่วนกับคดีนี้เท่านั้น จะถือเอาคำพิพากษาในคดีหลังไปลบล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีนี้ที่พิพากษาให้โจทก์มีสิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม เพื่อมิให้ศาลบังคับจำเลยในคดีนี้ไม่ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดี จำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลฎีกาพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้วให้แบ่งทรัพย์ให้โจทก์จำเลยจะอ้างเหตุผลในคดีอื่นมาเป็นเหตุไม่ให้ศาลบังคับจำเลยตามคำพิพากษาศาลฎีกาไม่ได้ ให้ยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของนายพุ่มโดยอ้างว่าโจทก์มีสิทธิได้รับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรมจำเลยให้การเพียงว่าโจทก์มิใช่ทายาทโดยธรรม ไม่มีสิทธิรับมรดก ไม่ได้ให้การว่านายพุ่มเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้แก่จำเลยและผู้มีชื่ออื่น ๆ เมื่อศาลฎีกาพิพากษาเป็นที่สุดว่าโจทก์เป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิได้รับมรดกกึ่งหนึ่ง คำพิพากษาดังกล่าวจึงผูกพันโจทก์จำเลย ซึ่งเป็นคู่ความในคดีนี้จนกว่าคำพิพากษาดังกล่าวจะได้ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข กลับหรืองดเสีย ถ้าหากมี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145
ที่จำเลยฎีกาทำนองว่า คำพิพากษาศาลแพ่งคดีหมายเลขแดงที่ 14421/2523ที่พิพากษาว่า นายพุ่มเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้แก่จำเลยและผู้มีชื่ออื่น โจทก์จึงถูกตัดมิให้รับมรดกของนายพุ่มนั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่าในคดีหลังนี้ โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินและสัญญาจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 616 และ 2320 แขวงคลองถนน เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พร้อมกับขอแบ่งมรดกที่ดินโฉนดเลขที่ 4230,44231 และ 44236 แขวงลาดยาว เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร กับบ้านเลขที่ 45 ค. หมู่ที่ 3 แขวงลาดยาว เขตบางเขน กรุงเทพมหานครพร้อมด้วยที่ดิน ซึ่งไม่เกี่ยวกับทรัพย์มรดกในคดีนี้ จำเลยจึงให้การเพิ่มเติมในคดีหลังนี้ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิรับมรดกเพราะนายพุ่มเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้แก่ จำเลยกับผู้มีชื่ออื่น เมื่อศาลแพ่งพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยฟังข้อเท็จจริงในคดีหลังว่านายพุ่มเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้จำเลยกับผู้มีชื่ออื่น คำพิพากษาในคดีหลังนี้ย่อมผูกพันโจทก์จำเลยในคดีหลังกล่าวคือ โจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะได้รับมรดกเฉพาะเกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่ว่ากล่าวกันในคดีหลังนี้เท่านั้น จะถือเอาคำพิพากษาของศาลแพ่งในคดีหลังนี้ไปลบล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาที่พิพากษาให้โจทก์มีสิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรมหาได้ไม่ ทั้งสภาพของทรัพย์มรดกในคดีนี้ก็ยังคงเป็นเช่นเดิมหาได้เปลี่ยนสภาพไปจนไม่อาจบังคับได้ดังจำเลยกล่าวอ้างไม่”
พิพากษายืน