คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2466/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ได้ลงชื่อในหนังสือมอบอำนาจให้ ส.เป็นผู้ฟ้องคดีหนังสือฉบับนี้ได้ประทับตราของบริษัทโจทก์แล้ว ส.ลงชื่อเป็นโจทก์ในคำฟ้องโดยไม่จำต้องประทับตราของบริษัทโจทก์อีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ฯลฯ ชำระหนี้ให้โจทก์ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามฟ้องปรับจำเลยรวมคนละ ๓๕,๐๐๐ บาท
โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยที่ ๒ รวม ๑ ปี นอกจากที่แก้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาต่อไปเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์มอบอำนาจให้นายสุรัตน์ กรรมการของบริษัทโจทก์ฟ้องคดีนี้ แต่นายสุรัตน์ลงชื่อในคำฟ้องโดยไม่ได้ประทับตราของบริษัท โจทก์จึงขัดต่อข้อบังคับเรื่องกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทโจทก์ ศาลฎีกาเห็นว่านายแมทธิว เอซ ฮอดดี้ กรรมการผู้จัดการของบริษัทโจทก์ได้ลงชื่อในหนังสือมอบอำนาจหมาย จ.๒ ให้นายสุรัตน์เป็นผู้ฟ้องคดีนี้ หนังสือฉบับนี้ได้ประทับตราของบริษัทโจทก์แล้ว นายสุรัรน์ลงชื่อเป็นโจทก์ในคำฟ้องโดยไม่จำต้องประทับตราของบริษัทโจทก์อีก ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยที่ ๒ ทั้งจำคุกและปรับ เป็นการรุนแรงเกินไปนั้น ความจริงศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกจำเลยที่ ๒ สถานเดียว ไม่มีโทษปรับด้วย
พิพากษายืน

Share