แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จะให้ลูกจ้าง หรือผู้ทำการแทน หรือผู้ทำการติดต่อรับผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 76 ทวิ วรรคแรก นั้น เจ้าพนักงานประเมินจะต้องเรียกบุคคลผู้ต้องรับผิดมาไต่สวนแล้วแจ้งจำนวนเงินที่ประเมินไปยังบุคคลผู้ต้องรับผิด ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 19,20ก่อน เพื่อที่บุคคลนั้นจะได้มีโอกาสอุทธรณ์การประเมินตามความในวรรคสาม เมื่อโจทก์ไม่ได้เรียก ด. ไปไต่สวนและแจ้งการประเมินดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ด. ให้ต้องรับผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 76 ทวิ และย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในฐานะผู้ค้ำประกัน ด. ด้วย ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นายเดเนียล เจ.วาร์ด มีฐานะเป็นลูกจ้างหรือผู้ทำการแทน หรือผู้ทำการติดต่อให้กับบริษัทเกรตอีสเทอร์นดริลลิ่ง แอนด์เซอร์วิส อิงค์ จึงเป็นตัวแทนของบริษัทดังกล่าวมีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร มาตรา 76 ทวิ ให้แก่โจทก์แต่โจทก์ไม่สามารถบังคับเอาจากนายเดเนียล เจ.วาร์ด ได้ จึงขอให้บังคับจำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันนายเดเนียล เจ.วาร์ด ชำระค่าภาษีอากรดังกล่าวแก่โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า ประมวลรัษฎากร มาตรา76 ทวิ วรรคแรก บัญญัติไว้ว่า “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ มีลูกจ้างหรือผู้ทำการแทนหรือผู้ทำการติดต่อในการประกอบกิจการในประเทศไทย ซึ่งเป็นเหตุให้ได้รับเงินได้หรือผลกำไรในประเทศไทยให้ถือว่าบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นประกอบกิจการในประเทศไทย และให้ถือว่าบุคคลผู้เป็นลูกจ้างหรือผู้ทำการแทน หรือผู้ทำการติดต่อเช่นว่านั้นไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลเป็นตัวแทนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และให้บุคคลนั้นมีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีตามบทบัญญัติในส่วนนี้ เฉพาะที่เกี่ยวกับเงินได้หรือผลกำไรที่กล่าวแล้ว”
วรรคสาม บัญญัติไว้ว่า “ในกรณีการประเมินตามความในมาตรานี้จะอุทธรณ์การประเมินก็ได้” เมื่อพิเคราะห์บทบัญญัติดังกล่าวในวรรคแรกประกอบวรรคสามแล้วเห็นได้ว่า การที่จะเรียกให้ลูกจ้างหรือผู้ทำการแทน หรือผู้ทำการติดต่อรับผิดตามความในวรรคแรกนั้นเจ้าพนักงานประเมินจะต้องดำเนินการตามประมวลรัษฎากร มาตรา 19และ 20 ก่อน กล่าวคือ จะต้องเรียกบุคคลผู้ต้องรับผิดตามความในวรรคแรกมาไต่สวนแล้วแจ้งจำนวนเงินที่ประเมินไปยังบุคคลผู้ต้องรับผิด เพื่อที่บุคคลนั้นจะได้มีโอกาสอุทธรณ์การประเมินตามความในวรรคสามก่อน ในคดีนี้จากพยานหลักฐานของโจทก์ไม่ปรากฏว่าได้มีการเรียกนายเดเนียล เจ.วาร์ด ไปไต่สวนและแจ้งการประเมินไปยังนายเดเนียล เจ.วาร์ด แต่อย่างใด โจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้องนายเดเนียล เจ.วาร์ด ให้ต้องรับผิดตามประมวลรัษฎากรมาตรา 76 ทวิ และย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันนายเดเนียล เจ.วาร์ด ให้ต้องรับผิดเช่นเดียวกัน ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวและวินิจฉัยมาในชั้นศาลภาษีอากรกลางศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้
พิพากษายืน