แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญากู้กำหนดใช้ต้นเงินคืนภายในวันที่ 25 กันยายน จนกระทั่งวันที่ 1 ตุลาคม แล้วผู้ให้กู้จึงมีหนังสือถึงผู้กู้ ความว่า ผู้ให้กู้ต้องการใช้เงินที่ให้กู้ไปนั้นโดยด่วน ให้ผู้กู้รีบนำไปใช้ให้ภายในวันที่ 15 ตุลาคม นั้น หนังสือนี้เป็นหนังสือทวงหนี้โดยกำหนดวันให้นำเงินไปชำระ ไม่ใช่เรื่องผ่อนเวลาชำระหนี้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยผู้ค้ำประกันเงินที่นายตี่เขียงกุ้โจทก์ไป ๑๔,๐๐๐ บาท ซึ่งตามสัญญากำหนดชำระต้นเงินคืนภายในวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๐๐ จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ผ่อนเวลาให้ผู้กู้โดยไม่ได้แจ้งให้จำเลยทราบ จำเลยจึงพ้นจากความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๐๐
ข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์มีหนังสือลงวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๐๐ ถึงนายตี่เชียง หรือเล็กผู้กู้ความว่า “อี๊วต้องการใช้เงินที่ลื้อกู้อี๊วไปสองคราวคือ ๑๔,๐๐๐ บาท และ ๔๐,๐๐๐ บาทโดยด่วน ให้ลื้อรีบนำไปใช้ให้อี๊วภายในวันที่ ๑๕ เดือนนี้ด้วย”
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกันว่า หนังสือนี้เป็นหนังสือทวงหนี้ ไม่ใช่หนังสือผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้ พิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
เกี่ยวกับหนังสือศาลฎีกาเห็นว่า ข้อความเห็นได้ชัดว่าเป็นหนังสือทวงหนี้ โดยบอกกล่าวกำหนดวันให้นำเงินไปชำระ ไม่มีข้อความกล่าวถึงเรื่องผ่อนเวลาชำระหนี้เลย เป็นเรื่องที่ผู้กู้ผิดนัด โจทก์ผู้ให้กู้ไม่ฟ้องร้องทันที หาใช่เป็นเรื่องผ่อนเวลาชำระหนี้ไม่ พิพากษายืน