คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เช่าเรือมาจับสัตว์น้ำเป็นการละเมิดต่อพระราชบัญญัติโดยมีคนต่างด้าวเกินส่วนที่กฎหมายระบุไว้ ถือได้ว่าเป็นเจ้าของแห่งเรือนั้นต้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิจับสัตว์น้ำสยาม ม.11 ตอนต้น ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.193,225 ฎีกาของโจทก์กล่าวแต่เพียงว่าคำพิพากษาฎีกาที่ศาลอุทธรณ์อ้างนั้นได้มีคำพิพากษาฎีกาฉะบับหลังทับเสียแล้วจำเลยทุกคนจึงควรมีความผิดต่อกฎหมายบทนั้นหนี้ดังนี้เป็นฎีกาย่อ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยที่ ๑ และ ๒ เป็นคนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตให้จับสัตว์น้ำได้สมคบกับจำเลยที่ ๓-๔ ซึ่งเป็นคนไทยมีใบอนุญาตให้จับสัตว์น้ำใช้เรือจับสัตว์น้ำซึ่งจำเลยที่ ๕ ได้เช่ามาโดยมีคนประจำเรือเป็นคนต่างด้าวมากกว่าร้อยละ ๒๕ แห่งจำนวนคนประจำเรือทั้งหมด โดยจำเลยที่ ๕ เป็นผู้จ้างวานให้จำเลยทั้ง ๔ กระทำการ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์คงลงโทษจำเลยฉะเพาะความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยสิทธิจับสัตว์น้ำสยาม ม.๑๐ ตอน ๒ ส่วนข้อหาที่ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.อากรค่าน้ำ ร.ศ.๑๒๐ และข้อที่ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๕ ตาม พ.ร.บ.สิทธิจับสัตว์น้ำสยาม ม.๑๐ ตอนต้นให้ยก
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าฎีกาข้อแรกของโจทก์ที่ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.อากรค่าน้ำนั้นโจทก์กล่าวแต่เพียงฎีกาที่ ๘๘/๒๔๖๑ ที่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นอ้างนั้นได้มีฎีกาที่ ๙๑๔/๒๔๗๗ กับที่ ๕๘๓/๒๔๗๘ ทับเสียแล้วจำเลยทุกคนควรมีความผิดตาม พ.ร.บ.อากรค่าน้ำอีกบทหนึ่งด้วยนั้น ฎีกาข้อนี้มิได้ระบุเหตุผลหรือตัวบทกฎหมายขึ้นอ้างอิง จึงไม่เป็นฎีกาที่พึงรับไว้พิจารณาตาม ม.๑๙๓,๒๒๕ แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญา ให้ยกฎีกาข้อนี้เสีย ส่วนฎีกาที่ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๕ ตาม พ.ร.บ.สิทธิ์จับสัตว์น้ำ ม.๑๐ ตอนต้นนั้น ความในมาตราที่กล่าวนี้ เห็นว่าไม่ได้มุ่งหมายเจาะจงฉะเพาะผู้มีกรรมสิทธิในลำเรือ คำว่าเจ้าของแห่งเรือหมายถึงผู้อยู่ในฐานะเป็นเจ้าของในการใช้เรือจับสัตว์น้ำ คดีนี้จำเลยที่ ๕ เป็นผู้เช่าเรือ เพื่อให้จำเลยอื่นจับสัตว์น้ำอันเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย จึงถือได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของแห่งเรือ มีความผิดตาม ม.๑๐ ตอนต้น จึงพิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยที่ ๕ ตามกฎหมายที่กล่าวนอกนั้นยืนตาม

Share