แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ห้างหุ้นส่วนจำกัดจะต้องเลิกกันโดยผลของกฎหมายเนื่องจากหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดตาย แต่ก็พึงถือว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวยังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1249 การที่ตัวแทนของห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งได้รับมอบหมายให้มีอำนาจหน้าที่ดูแลกิจการตลอดจนสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ มาดำเนินการค้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้นได้สั่งซื้อกระดาษมาใช้ดำเนินกิจการด้านโรงพิมพ์ของห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ยังค้างอยู่ตามที่ไปรับงานมา แม้จะมิใช่เป็นการกระทำเพื่อชำระบัญชีก็ตาม แต่ก็เป็นการกระทำเพื่อปกปักรักษาประโยชน์อันสมควรมิให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งเป็นตัวการต้องเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 828ห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวจึงต้องผูกพันตามสัญญาซื้อขายนั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 และนายเสรี ธรรมวิทย์ หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด ในฐานะส่วนตัวและตัวแทนของจำเลยที่ 1 ได้สั่งซื้อกระดาษชนิดต่าง ๆ ไปจากโจทก์ ต่อมานายเสรี ธรรมวิทย์ ถึงแก่กรรม จำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นผู้จัดการมรดกของนายเสรี ธรรมวิทย์ โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยทั้งสามชำระค่ากระดาษดังกล่าวแต่จำเลยทั้งสามไม่ชำระ จึงขอให้บังคับ
จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ให้การว่าจำเลยที่ 1 และนายเสรี ธรรมวิทย์ ไม่เคยสั่งซื้อกระดาษจากโจทก์ วันที่โจทก์ว่าได้ส่งกระดาษให้จำเลยที่ 1 นายเสรีธรรมวิทย์ ถึงแก่กรรมแล้ว และห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 เลิกกันแล้ว ไม่มีสิทธิและอำนาจจะทำนิติกรรมใด ๆ ได้อีก สัญญาซื้อขายกระดาษหากมีขึ้นก็ไม่ผูกพันจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 3 ให้การว่า จำเลยไม่ทราบและไม่รับรองว่า โจทก์จะเป็นนิติบุคคลและมีอำนาจฟ้องคดีนี้ จำเลยไม่อาจทราบได้ว่า ผู้ที่ลงลายมือชื่อในใบรับของท้ายฟ้องเป็นผู้ใดและจะได้รับมอบหมายจากนายเสรี ธรรมวิทย์ ให้มีอำนาจรับกระดาษดังกล่าวหรือไม่ หากจำเลยที่ 1 ได้ซื้อกระดาษจากโจทก์จริง นายเสรี ธรรมวิทย์ หรือกองมรดกของนายเสรี ธรรมวิทย์ ก็ไม่ต้องรับผิดร่วมด้วย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า นายเสรี ธรรมวิทย์ หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดได้ถึงแก่ความตาย ห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 ก็ต้องเลิกกันไปโดยผลแห่งกฎหมาย และหมดสภาพเป็นนิติบุคคลนายปัญญา ธรรมวิทย์ สั่งซื้อและรับกระดาษจากโจทก์หลังจากนายเสรี ธรรมวิทย์ ถึงแก่ความตายแล้ว ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ซื้อกระดาษไปจากโจทก์ตามฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกและเป็นทายาทของนายเสรี ธรรมวิทย์ หุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยที่ 1 ก็ไม่ต้องรับผิด พิพากษายกฟ้องโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า แม้นายเสรี ธรรมวิทย์ หุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยที่ 1 จะถึงแก่ความตายแล้ว และหุ้นส่วนจะต้องเลิกกันตามกฎหมายก็ตาม แต่ก็ต้องถือว่าห้างหุ้นส่วนยังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี ขณะซื้อกระดาษรายพิพาท ยังมิได้มีการชำระบัญชี นายปัญญา ธรรมวิทย์ ซึ่งเป็นตัวแทนย่อมมีอำนาจตามสมควรที่จะทำการค้าต่อมาเพื่อรักษาผลประโยชน์ของห้างหุ้นส่วน และนางสาวจรัส สุวรรณางกูร หุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดกับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก และทายาทของนายเสรี ธรรมวิทย์ มิได้คัดค้าน เท่ากับรู้เห็นยินยอมให้ทำการค้า ต่อมา จำเลยทั้งสามจึงต้องผูกพันตามสัญญาซื้อขายนั้น พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสามชำระเงินพร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า นายเสรี ธรรมวิทย์ หุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยที่ 1 ได้มอบหมายให้นายปัญญา ธรรมวิทย์ เป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 มีอำนาจหน้าที่ดูแล กิจการตลอดจนสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ มาดำเนินการค้าของจำเลยที่ 1 ได้ และนายปัญญาได้สั่งซื้อกระดาษรายพิพาทจากโจทก์มาใช้ในธุรกิจการค้าของจำเลยที่ 1 เมื่อนายเสรี ธรรมวิทย์ หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดตาย ห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 จะต้องเลิกกันโดยผลของกฎหมาย แต่ก็พึงถือว่าห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 ยังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1249 ที่ นายปัญญา ธรรมวิทย์ สั่งซื้อกระดาษรายพิพาทจากโจทก์นั้น แม้จะมิใช่เป็นการกระทำเพื่อการชำระบัญชี แต่เป็นการสั่งซื้อกระดาษมาใช้ดำเนินกิจการด้านโรงพิมพ์ของจำเลยที่ 1 ที่ยังคงค้างอยู่ตามที่จำเลยที่ 1ไปทำสัญญารับงานมาอันเป็นการป้องกันมิให้จำเลยที่ 1 ได้รับความเสียหายที่ผิดสัญญา การกระทำของนายปัญญาเป็นการปกปักษ์รักษาประโยชน์อันสมควร มิให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการต้องเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 828 จำเลยที่ 1 ต้องผูกพันตามสัญญาซื้อขายนั้น พิพากษายืน