คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลูกจ้างขนสุราไปผิดตำบลในใบอนุญาต จนถูกลงโทษและริบสุราแล้ว นายจ้างมาขอคืนสุราโดยอ้างว่าไม่รู้เห็นในการขนสุราผิดตำบล มิได้กล่าวว่าลูกจ้างทำโดยทุจริตหรือโดยมีความจำเป็นอย่างไร ดังนี้ ไม่ต้องไต่สวนคำร้องเพื่อคืนสุรา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขนสุราเกิน 10 ลิตร จากตำบลพระบรมมหาราชวังไปถึงตำบลเทพศิรินทร์โดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษและริบสุราของกลาง จำเลยให้การรับสารภาพ

นายซุนยื่นคำร้องเข้ามาว่าเป็นเจ้าของสุรา ได้สั่งให้จำเลยขนจากตำบลพระบรมมหาราชวังไปยังตำบลวัดมหรรณ์พ ตามใบขนที่เจ้าพนักงานออกให้ แต่จำเลยขนไปผิดตำบลจากใบขนโดยผู้ร้องไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำของจำเลย ขอให้ศาลสั่งคืนสุราให้แก่ผู้ร้อง

ศาลชั้นต้นลงโทษปรับและริบสุราของกลาง

นายชุนผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามกฎหมายอาญา มาตรา 27 มีว่า ในการริบทรัพย์ถ้าทรัพย์มีเจ้าของควรได้คืนตามกฎหมายมิให้ริบ อีกตอนหนึ่งว่าสิ่งของที่บุคคลใช้หรือมีไว้โดยเจตนาจะใช้สำหรับกระทำความผิดท่านว่าเป็นของควรริบ เว้นแต่ถ้าสิ่งของที่ว่าในข้อนี้เป็นของผู้อื่นที่เขามิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดหรือเจตนาที่จะกระทำผิด ท่านว่ามิควรริบ ฉะนั้นควรไต่สวนคำร้องของนายชุนพิพากษาให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วสั่งใหม่

โจทก์ฎีกา ขอให้ศาลริบสุราของกลางโดยไม่ต้องให้ศาลไต่สวนก่อน

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องมิได้แสดงเหตุให้เห็นว่าการที่จำเลยผู้เป็นลูกจ้างขนสุราไปต่างตำบลจนถูกจับนั้น จำเลยได้กระทำไปโดยทุจริต หรือด้วยความจำเป็นอย่างไรเลย จึงไม่มีเหตุที่จะต้องไต่สวนพยานผู้ร้องเพื่อคืนสุราให้ เพราะการกระทำของจำเลยเช่นนี้เป็นเหตุให้ศาลสั่งริบสุราได้แล้วตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นในจ.ศ. 1248 มาตรา 12 พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ริบสุราของกลาง

Share