แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องถูกศาลสั่งขังในฐานเป็นบริวารของจำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามคำบังคับของศาล สามีผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องไม่ใช่บริวารของจำเลยและยื่นคำร้องขอประกันตัวผู้ร้อง ศาลมีคำสั่งว่า ผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลย ให้ยกคำร้องดังนี้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลนั้น เพราะเป็นคำสั่งระหว่างศาลกับสามีผู้ร้องและคำร้องของสามีผู้ร้องก็เป็นเรื่องยื่นขอประกันตัวผู้ร้อง ไม่ใช่เป็นคำร้องคัดค้านคำสั่งศาลหรือเป็นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาในข้อที่ว่า ผู้ร้องมิใช่บริวาร ศาลจะสั่งขับไล่ผู้ร้องไม่ได้.
ย่อยาว
คดีนี้ศาลพิพากษาขับไล่และสั่งให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง จำเลยยื่นคำร้องว่า ทำการรื้อไม่ได้เพราะนางกิมกี่ไม่ยอมให้รื้อ นางกิมกี่ได้มาศาล ๆ แจ้งให้ทราบว่า นางกิมกี่เป็นบริวารของจำเลยและจะต้องถูกบังคับตามคำพิพากษา นางกิมกี่ไม่ยอมออก ศาลจึงออกหมายจับ และสั่งขังนางกิมกี่ไว้ นายเอี๊ยะหยูสามีนางกิมกี่ยื่นคำร้องว่า นางกิมกี่ไม่ใช่บริวารของจำเลย และขอประกันนางกิมกี่ออกจากที่คุมขัง ศาลสั่งว่านางกิมกี่เป็นบริวารของจำเลย ไม่มีสิทธิอันใดยกขึ้นยันผู้เช่าเดิม ให้ยกคำร้อง นางกิมกี่อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า นางกิมกี่ไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่ง พิพากษายกอุทธรณ์
นางกิมกี่ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า คำสั่งวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๔๙๑ เป็นคำสั่งระหว่างศาลกับนายเอี๊ยะหยู นอกจากนั้นคำร้องนั้นก็เป็นเรื่องยื่นคำร้องขอประกันตัวนางกิมกี่ มิใช่เป็นคำร้องคัดค้านคำสั่งศาล หรือเป็นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาในข้อที่ว่า นางกิมกี่ไม่ใช่บริวารศาลจะสั่งขับไล่นางกิมกี่ไม่ได้ ฉะนั้นนางกิมกี่จึงไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลลงวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๔๙๑
พิพากษายืน.