แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องเดิมโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำผิดของจำเลยว่า เมื่อระหว่างวนที่ 18 ถึง 30 พฤศจิกายน 2518 จำเลยเป็นเจ้ามือสลากกินรวบโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิ่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้ามือเล่นพนันสลากกินรวบงวดวันที่ 20 เดือนเดียวกันด้วย การกำหนดวันออกสลากเป็นสารสำคัญของการเล่นสลากกินรวบ การเพิ่มข้อหาเข้ามาเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2518 ซึ่งเป็นวันออกสลากขึ้นอีกงวดหนึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มข้อหาจำเลยว่ากระทำผิดขึ้นอีกกระทงหนึ่ง นอกเหนือไปจากการที่พนักงานสอบสวนได้สอบสวนจำเลยเป็นเจ้ามือสลากกินรวบเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2518 ส่วนการที่โจทก์อ้างว่าได้มีการสอบปากคำพยานผู้ซื้อสลากจากจำเลยงวดวันที่ 201 พฤศจิกายน 2518 นั้น ก็เป็นเพียงการสอบปากคำในฐานะพยานเท่านั้น จะถือว่าเป็นการสอบสวนจำเลยในข้อนี้หาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ ถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ จำเลยเป็นเจ้ามือสลากกินรวบงวดประจำวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ โดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๑๐, ๑๒ พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ.๒๕๐๔ มาตรา ๓ และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ต่อมาโจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องเมื่อสืบพยานโจทก์แล้วว่าจำเลยเป็นเจ้ามือกินรวบงวดประจำวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ ด้วย จำเลยยื่นคำแถลงคัดค้านว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบ และไม่มีการสอบสวนในข้อหาความผิดที่โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องได้
ศาลชั้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ.๒๕๐๔ มาตรา ๓ ลงโทษแล้วคงจำคุกจำเลยมีกำหนด ๑ เดือน ริบโพยสลาก ส่วนของกลางอื่นให้คืนเจ้าของ
โจทก์อุทธรณ์ว่าไม่ควรลดโทษให้จำเลย และให้ริบของกลางทั้งหมด
จำเลยอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องเป็นการไม่ชอบและจำเลยไม่ได้กระทำความผิด
ศาลอุทธรณ์ให้ยกคำร้องของเพิ่มเติมฟ้องโจทก์ และฟังข้อเท็จจริงว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิด พิพากษากลับให้ยกฟ้องโพยสลากของกลางริบ นอกนั้นคืนเจ้าของ
โจทก์ฎีกาว่าฟ้องเดิมของโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำผิดของจำเลยว่าเมื่อระหว่างวันที่ ๑๑ ถึง ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ จำเลยกับพวกเล่นการพนันสลากกินรวบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการกระทผิดของจำเลยว่าได้มีการกระทำผิดต่อเนื่องกันมา อันถือได้ว่าได้มีการสอบสวนในความผิดของจำเลยนั้นแล้ว และฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำผิด
ศาลฎีกาเห็นว่า กำหนดวันออกรางวัลเป็นสารสำคัญของการเล่นพนันสลากกินรวบ การเพิ่มข้อหาว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ ซึ่งเป็นวันออกสลากขึ้นอีกงวดหนึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มข้อหาจำเลยว่ากระทำผิดขึ้นอีกกระทงหนึ่ง นอกเหนือไปจากการที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาว่าจำเลยเป็นเจ้ามือสลากกินรวบเมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ ส่วนการที่โจทก์อ้างว่าได้มีการสอบปากคำพยานผู้ซื้อสลากจากจำเลยงวดวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ นั้น ก็เป็นเพียงการสอบปากคำในฐานะพยานเท่านั้น จะถือว่าเป็นการสอบสวนจำเลยในข้อนี้หาได้ไม่ และฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมิได้เป็นเจ้ามือสลากกินรวบในงวดวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๘
พิพากษายืน.
