คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2448/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ แม้ศาลจะมิได้พิจารณาในประเด็นที่มีคำขอตามทุนทรัพย์โดยตรงเพราะเห็นว่าไม่จำเป็นแก่คดี ก็ไม่ทำให้คดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้กลายเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ศาลจึงไม่จำต้องคืนค่าขึ้นศาลให้โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้มีสิทธิในการใช้รถยนต์ประจำทางคันหมายเลขทะเลียน ป.จ.๐๐๘๕๗ ร่วมวิ่งในเส้นทางสาย ๖๐ กรุงเทพมหานคร – อรัญประเทศ ของจำเลยที่ ๑ ในการนำมาเข้าร่วมวิ่งกับจำเลยที่ ๑ นั้น มีข้อสัญญาว่าให้โจทก์โอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยที่ ๑ ด้วย หากเลิกสัญญา จำเลยที่ ๑ จะโอนรถคืนให้โจทก์ รถของโจทก์ ๒ คัน มีราคารวมเป็นเงิน ๗๗๘,๐๐๐ บาท เมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๑๓ จำเลยที่ ๒ โดยเจตนาทุจริตเพื่อโอนทรัพย์และสิทธิในการเดินรถของโจทก์ไปเป็นของตนเอง ได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายและหนังสือโอนสิทธิในการเดินรถปลอมไปยื่นต่อจำเลยที่ ๑ เพื่อโอนรถของโจทก์ทั้งสองคันไปเป็นของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๑ ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ไม่ตรวจเอกสารให้รอบคอบ ละเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบเกี่ยวกับการโอนรถ ได้โอนชื่อเจ้าของและสิทธิในการเดินรถทั้งสองกันไปเป็นของจำเลยที่ ๒ ทำให้โจทก์สูญเสียการครอบครองรถ ขาดรายได้สุทธิจากการเดินรถ รวมเสียหายทั้งสิ้น ๓,๙๖๓,๐๐๐ บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยและให้จำเลยทั้งสองโอนสิทธิในการเดินรถคืนโจทก์
จำเลยที่ ๑ ให้การว่าโจทก์ไม่เคยนำรถยนต์โดยสารเข้าร่วมกับจำเลยที่ ๑ ในเส้นทางสาย ๖๐ กรุงเทพมหานคร – อรัญประเทศ จำเลยที่๑ มิได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อ รถยนต์ที่โจทก์อ้างทั้งสองคันมีนางสมวรรณ ตรีสุวรรณ เป็นเจ้าของและได้โอนกรรมสิทธิ์รถและสิทธิในการเดินรถทั้งสองคันให้จำเลยที่ ๒ โจทก์ไม่เสียหายเท่าที่ฟ้อง คดีขาดอายุความในเรื่องละเมิดแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า นางสมวรรณ ตรีสุวรรณ เป็นเจ้าของหรือผู้มีสิทธิในการเดินรถทั้งสองคัน และเป็นกรรมการของโจทก์นางสมวรรณจึงเป็นตัวการและตัวแทนของโจทก์ และเป็นตัวแทนเชิดด้วย การที่นางสมวรรณโอนรถให้จำเลยที่ ๒ จึงมีผลผูกพันโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายใด ๆ ทั้งค่าเสียหายไม่มีมูลความจริง โจทก์คาดหมายเอา และเป็นค่าเสียหายในอนาคต คดีขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มิได้พิจารณาประเด็นค่าเสียหาย จึงมีผลเท่ากับพิจารณาคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ศาลชั้นต้นมิได้สั่งคืนค่าธรรมเนียมให้โจทก์และกำหนดค่าทนายความให้จำเลยคนละ ๓๐,๐๐๐ บาท เป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่าโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยให้ร่วมกันใช้ราคารถยนต์พิพาทและร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ โจทก์จึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยในประเด็นเรื่องค่าเสียหายเพราะเห็นว่าไม่จำเป็นแก่คดี ไม่ทำให้คดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ กลายเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share