แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การรับเงินหรือเอกสารแทนนิติบุคคล ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ไปรับเงินหรือเอกสารก็สามารถลงลายมือชื่อรับได้ จำเลยที่ 2 เป็นกรรมการของจำเลยที่ 1 ลงลายมือรับเช็คเพียงคนเดียวก็สมบูรณ์แล้วไม่จำต้องให้กรรมการคนอื่นลงลายมือชื่อร่วมและประทับตราสำคัญของจำเลยที่ 1
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 และนายเซ้งทำสัญญากู้เงินจากโจทก์ 2,500,000 บาท โดยมีจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยทั้งหกไม่ชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยแก่โจทก์ ขอบังคับให้จำเลยทั้งหกร่วมกันใช้เงินจำนวน 4,146,232.88 บาท
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 และที่ 5 ให้การทำนองเดียวกันว่าจำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้เงินจากโจทก์จริง แต่จำเลยที่ 1 ไม่ได้รับเงิน ทั้งนี้เพราะการกู้ยืมเงินดังกล่าวจำเลยที่ 1 มีเจตนาขอเปิดสินเชื่อไว้กับโจทก์ในวงเงิน 2,500,000 บาท แต่หลังจากทำสัญญากู้เงินแล้ว จำเลยที่ 1 ไม่เคยเบิกเงินจากโจทก์เลย ทั้งนายเซ้งกรรมการผู้หนึ่งของจำเลยที่ 1 ไม่ยอมทำสัญญาค้ำประกันการขอกู้เงินด้วย สัญญากู้เงินจึงไม่สมบูรณ์ จำเลยที่ 1 ซึ่งลงลายมือชื่อในสัญญากู้เงิน และจำเลยที่ 2 และที่ 4 ในฐานะผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
จำเลยที่ 3 และที่ 6 ขาดนัดยื่นคำให้การ และขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 6ร่วมกันใช้เงินต้นจำนวน 2,500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์คำขออื่นของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 กู้เงินจากโจทก์ตามฟ้องโดยจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทจำเลยที่ 1 เป็นผู้รับเช็คเงินกู้ไปจากโจทก์และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ส่วนข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 4 ที่ว่า การรับเช็คไม่สมบูรณ์เพราะไม่มีกรรมการอื่นลงลายมือชื่อร่วมและประทับตรา จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดนั้น เห็นว่า การรับเงินหรือเอกสารแทนนิติบุคคล ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ไปรับเงินหรือเอกสารก็สามารถลงลายมือชื่อรับได้จำเลยที่ 2 เป็นกรรมการของจำเลยที่ 1 ลงลายมือรับเช็คเพียงคนเดียวก็สมบูรณ์แล้ว ไม่จำต้องให้กรรมการคนอื่นลงลายมือชื่อร่วมและประทับตราสำคัญของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชอบในการกระทำของจำเลยที่ 2
พิพากษายืน