แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยเอาของลับทิ่มแทงบริเวณของลับเด็กหญิง อายุ 8 ปี2 ครั้ง เด็กเจ็บและร้องขึ้น ฟังได้ว่าจำเลยตั้งใจเพียงทำอนาจาร ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279วรรคสองได้
ย่อยาว
ผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงอายุ 8 ปี ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 80 จำคุก 1 ปี 4 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเข้าไปนอนทับผู้เสียหาย แล้วเอาอวัยวะสืบพันธุ์ของจำเลยทิ่มแทงตรงบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้เสียหายจริงดังที่ผู้เสียหายเบิกความ
ปัญหาที่จะต้องพิจารณาต่อไปมีว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามกระทำชำเราผู้เสียหายตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำเบิกความของผู้เสียหายคงได้ความเพียงว่าจำเลยเข้าไปนอนทับขณะหลับ ขณะนั้นผู้เสียหายกำลังนอนคว่ำอยู่พอถูกจำเลยนอนทับผู้เสียหายก็นอนตะแคง มองเห็นหน้าจำเลย ๆ นุ่งกางเกงขายาว จำเลยถอดกางเกงออกแค่หัวเข่า แล้วใช้อวัยวะสืบพันธุ์ทิ่มแทงที่โคนขาขวา ตรงอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้เสียหาย 2 ครั้ง ผู้เสียหายเจ็บร้องขึ้น จำเลยก็กลับไปลักษณะการกระทำของจำเลยดังกล่าวยังไม่อยู่ในวิสัยที่จำเลยจะกระทำชำเราผู้เสียหายได้ ทั้งทางพิจารณาก็ไม่ปรากฏด้วยว่าภายหลังเกิดเหตุแล้วอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้เสียหายมีสภาพเป็นอย่างไรการกระทำของจำเลยจึงฟังได้เพียงว่าจำเลยตั้งใจกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายโดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 วรรคสอง เท่านั้น หาเป็นความผิดฐานพยายามกระทำชำเราตามที่โจทก์ฟ้องไม่ และเมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพียงฐานกระทำอนาจาร ซึ่งเป็นบทเบากว่า ศาลก็ชอบที่จะลงโทษปรับบทกฎหมายให้ถูกต้องได้ ตามมาตรา 192แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษากลับ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 179 วรรคสอง ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 9 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 1 ปี”